จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อากาศเริ่มหนาวแล้ว มาทำ "จับฉ่าย" แสนอร่อยให้ร่างกายได้อบอุ่นกัน มันง่ายจริงๆนะ

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านและท่านที่คอยติดตามบล๊อคฟลุ๊คอยู่เรื่อยๆ  ไม่ต้องสงสัยทำไมหายไปนาน  คือกระทะไฟฟ้าคู่ใจที่ใช้อยู่เป็นประจำเนี่ย  หูมันหักไปข้างนึงแล้วค่ะ T^T  เลยทำอะไรไม่สะดวกเลย  ก็ต้องขอโทษด้วยที่หายไป  ปรกติจะทำมาลงบล๊อคอย่างน้อย 1 เมนู  ต่อไปนี้จะพยายามมาลงบ่อยๆนะคะ  ต้องขออภัยจริงๆ  แต่เมนูที่จะทำวันนี้สามารถใช้หม้อต้มสุกี้ทำได้นะคะ
"จับฉ่าย" เป็นอาหารแสนง่าย แต่ทำให้อร่อยยาก  เป็นเมนูยามที่เงินกระเป๋าแห้งเหือดได้ดี 5555
ตอนแรกก็ว่าจะไม่เอาลง  คืออาหารที่ทำง่ายๆ  ดูดาดดื่นตามท้องตลาดเนี่ย  อะฮั้นก็ไม่อยากจะเอามาลงเท่าไหร่หรอกนะคะ (หมั่นไส้ตัวเอง)  แต่ไม่ได้ทำเมนูอะไรมาลงในบล๊อคนานแล้ว  ก็เลยจัดซะ1 เมนูไปละกันค่ะ   มาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ
ผักที่ท่านทั้งหลายชอบกันเลยค่ะ  ฟลุ๊คชอบกะหล่ำ  ก็เน้นเยอะหน่อย  กวางตุ้ง  กวางตุ้งฮ่องเต้  หัวไชเท้า  ถ้าใครทำหม้อใหญ่ก็ใส่ไปเลยค่ะ แคหร่งแครอท  ผักกาดขาวอะไรก็ว่ากันไป  ปรกติเวลาป๊าทำ  ป่าป๊าจะใส่ต้นชุนไฉ่ไม่ค่อยใช้กวางตุ้ง  ต้นจะเหมือนกวางตุ้งค่ะ  แต่ต้นและใบจะใหญ่กว่ามากเลย
ฟลุ๊คไม่มีครัว  ขอใช้แค่นี้ให้พอต้มในหม้อต้มสุกี้ละกัน
อย่าตกใจว่าทำใช้เยอะจัง  หม้อสุกี้แค่นั้นจะพอเหรอ  พอผักมันเริ่มยุบตัว  ก็ค่อยๆใส่เพิ่มลงไปข้างล่างหม้อค่ะ  ล้างผักให้สะอาดหลายๆรอบนะคะ  มันสำคัญมาก  เพราะถ้ากินจับฉ่ายแล้วเจอทราย  มันจะหมดอารมณ์และเซ็งสุดๆ  เพราะมันจะไม่อยากกินไปเลย  ล้างหลายๆรอบค่ะ  หั้นแล้วเอาแช่น้ำไว้  แล้วหยิบขึ้นมาใส่ตะกร้าไว้  เทน้ำทิ้งและล้างทรายก้นกาละมังที่ล้างผักออกให้หมด  แล้วก็เอาผักที่พักไว้ลงไปเปิดน้ำล้างให้สะอาด แล้วทำแบบเดิมอีกซัก 2-3 รอบค่ะ
ส่วนหมูสามชั้น  ใครจะใช้หมูชิ้นหรือซี่โครงอ่อนก็อร่อยนะคะ  แต่พอดีวันนั้นหาซื้อซี่โครงหมูอ่อนไม่ได้เลย  เลยใช้สามชั้นแทนค่ะ  ข้อดีของสามชั้นคือ  มันเปื่อยยุ่ยละลายในปากเลย  ทานแล้วจะฟินขีดของความสุขจะขึ้นถึงจุดสูงสุดพอๆกับปริมาณคอเรสเตอรอลค่ะ 5555  และที่ขาดไม่ได้คือกระเทียมรากผักชีโขลกค่ะ
เริ่มที่เอาหมูสามชั้นมาล้างให้สะอาด (สร้างภาพ จริงๆซื้อเป็นแพคมาจากห้าง เก๊าไม่เคยล้างเลย)  แล้วผสมหมูด้วยซีอิ๊วขาว   ซอสหอยนางรม  แม๊กกี้หรือซอสฝาเขียว  ซีอิ๊วดำนิดหน่อย  นิดเดียวนะคะพอให้หมูที่ใช้ให้ทั่วแล้วก็น้ำตาลประมาณ 2 ช้อนโต๊ะถ้าผักเยอะหรือหม้อใหญ่ก็ 3 ช้อนโต๊ะค่ะ  พริกไทยขาวหรือดำแล้วแต่จะสะดวกหรือชอบตามลงไปด้วยนะคะ  

 เสร็จแล้วก็ตั้งหม้อค่ะ  ใครที่ใช้หม้อทำครัวธรรมดาก็ตั้งหม้อ  ใส่น้ำมันเล็กน้อย  พอน้ำมันร้อยก็เอากระเทียมและรากผักชีที่โขลกไว้ลงไปเจียวให้หอม
แล้วเทหมูสามชั้นที่เราปรุงรสไว้ ลงไปผัดให้หอมค่ะ  ผัดไปเรื่อยๆจนซีอิ้วงวด  ผัดให้น้ำตาลทรายเริ่มละลายเหนียวๆเหมือนจะไหม้เลยนะคะ


พอได้กลิ้นแบบว่าใกล้จะไหม้ละ  ก็เอาผักลงไปผัดค่ะ  ผัดให้พอสลดนะ เหมือนผัดผักค่ะ



อัดผักลงไปเลยค่ะ  ยังไงเดี๋ยวผักก็อ่อนลงและยุบลงไปเยอะ  พอโอเคแล้วก็เทน้ำซุปต้มกระดูกลงไปค่ะ  ถ้าใครไม่สะดวกทำไว้  ก็เทน้ำเปล่าพร้อมซุปหมูก้อนลงไปอีกก้อนค่ะ  มันจะอูมามิ หวานหอมกลมกล่อม


ทีนี้ก็ปิดฝา  ต้มไปเรื่อยๆซัก 2 ชั่วโมงค่ะ  แล้วเอามิ้งไว้ซักคืน  ตื่นเช้ามาทานกับข้าวสวยร้อนๆ  มันอร่อยล้ำฝุดๆเลยนะ
ไม่ยากเลยนะคะ  ลองไปทำกันดูค่ะ  เมนูนี้แก้หนาว  และแก้ขัดยามขัดสนได้ดีเลยนะคะ 5555
อย่าลืม ทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ  Bon appetit ค่ะ ^^


วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ห่างจากกระทะไฟฟ้าไปนาน(มาก)กลับมาพร้อมปลานึ่งซีอิ๊ว(เจี๋ยน)แสนเข้มข้น

ขอกราบสวัสดีแฟนเพจที่น่ารักทุกท่าน  ท่านที่ผ่านมาเจอก็ดี และผู้ที่เข้ามาอ่านเป็นประจำก็ดี  ขอกราบประทานอภัย  ที่ห่างหายจากครัวและกระทะไฟฟ้าไปซะนานนม  มันมีอะไรหลายๆอย่างให้เหนื่อยใจ  ไม่มีกะใจจะทำอะไร อกหัก รักคุด  พึ่งเสียเป๊บซี่(สุนัข) ลูกรักที่สุด อยู่ด้วยกันมาทุกวันตลอด 14 ปีที่ผ่านมา  เลยทำแต่เมนูเดิมๆ ง่ายๆ  แต่วันนี้!!!!!!!!!!!!!!แข็งแรงขึ้นแล้ว  จะกลับมาทำของอร่อยให้ทานกันแล้วนะ สู้ๆ บอกกับตัวเองอย่างนั้น 
อ้อมไปแสนไกลคนอ่านเพลีย  ขอวกเข้าเรื่องกันเลยนะคะ  เนื่องจากอยากทานปลานึ่งมากกกก  แต่พอไปซื้อที่ไหนๆ ก็บอกว่าไม่อร่อย  ก็เลยลองทำให้แม่ทานซะเลย
มาเริ่มจากเครื่องปรุงต่างๆ  ที่หาได้ง่ายยยยยยยมักๆ
ปลานิล  ใครชอบปลาทับทิม ปลากะพงก็แล้วแต่ใจของท่านจะปรารถนาเลยค่ะ
เห็ดหอมสด จะไม่สดก็ได้นะคะ แล้วเอามาแช่น้ำใช้ได้เหมือนกันค่ะ ต้นหอม แครอทนิดหน่อย ขิงซอย ขึ้นช่าย  พริกแดง  แต่สารภาพตามตรงว่า ไม่ชอบทานขึ้นช่ายค่ะ  เลยไม่ใส่  ส่วนพริกแดง  จำได้ว่ายังมีอยู่ในตู้เย็น  มโนไปเองง่ะ  พอกลับมาบ้าน ไม่มีละจ้า  เลยไม่เป็นไร แต่ฟลุ๊คแนะนำให้ใส่นะคะ  เพื่อรสชาติที่ดีและสีสันที่สวยขึ้นค่ะ  เครื่องปรุงซอสที่ราดปลาตอนนึ่งก็มีแค่ ซีอิ๊วขาว แม๊กกี้ นิดหน่อย น้ำมันงา  และเหล้านิดหน่อยค่ะ เหล้าจีนไม่มี  อิชั้นโซโล่รีเจนซี่เลยค่ะ
เริ่มที่ทำความสะอาดปลาให้เรียบร้อย  ให้ที่ร้านบั้งและเอาไส้ออกให้เรียบร้อยเลยนะคะ  แล้วก็วางบนจานที่เตรียมไว้  โรยด้วยขิงหั่นฝอย และ แอบยัดเข้าในท้องปลานิดหน่อย
หมุนให้ไฟแรง  นึ่งไปเลยค่ะ 10-15 นาที  ฟลุ๊คชอบแบบเปื่อยๆรุ่ยๆหน่อย  ปิดฝา แล้วมาเตรียม กระเทียมสับ และซอยผักต่างๆเตรียมไว้  พอนึ่งไปได้ซักพัก ก็เตรียมน้ำราดซีอิ๊วขาว+น้ำมันงา+เหล้านิดหน่อย ราดลงไป  ให้ซึมเข้าตัวปลา  แล้วนึ่งต่อไปเรื่อยๆจนครบ10-15 นาที แล้วแต่ขนาดของตัวปลาด้วยนะคะ   ยกลงเตรียมไว้  กระทะที่ฟลุ๊คเคยถ่ายให้ดู มีชั้นให้สำรองมาสำหรับนึ่งด้วยค่ะ  แต่ถ้าใครไม่มีชั้นนึ่ง  แนะนำให้เอาจานมีก้นหรือชามวางลงไปก้นกระทะก่อนใบนึง  ให้พอพ้นน้ำ  แล้วเอาจานปลาวางทับลงไปให้พ้นน้ำแบบนั้นก็ได้ค่ะ

แล้วหันมาทำน้ำราดค่ะ  ตั้งกระทะ(ไฟฟ้า) ใส่น้ำมันนิดหน่อย เอากระเทียมกับเห็ดหอมลงไปผัดก่อน เพราะเห็ดจะสุกยากนิดนึงนะคะ  แล้วเติมน้ำนิดหน่อยนะคะ ไม่ให้เป็นเห็ดคั่วกระเทียมแห้งๆ  แล้วโรยขิงตาม ผัดพอสลด 

แล้วก็เตรียมแครอทหั่นฝอย ต้อนหอม ลงไปผัด เติมซอสหอยนางรมนิด เหยาะซีอิ๊วขาวอีกหน่อย หน่อยเดียวเท่านั้นนะคะ  โปรยผงชูรสเบาๆ เผื่อใครไม่มั่นใจในรสชาติ สุดท้ายเหล้าอีก 2 ช้อนโต๊ะ  ผัดให้หอมให้ทุกอย่างเข้ากัน

แล้วค่อยๆตักราดบนตัวปลาที่เราเตรียมไว้  โรยด้วยต้นหอมซอยอีกซักนิด  มันอร่อยล้ำมากๆๆๆค่ะ   ทานกับข้าวสวยร้อนๆ  มันเริ่ดมากๆๆๆ ไม่ต้องไปซื้อ ทำเองถูกปาก ถูกสตางค์ในกระเป๋ากว่าค่ะ ^^
ไม่ยากเลยนะคะ  ลองเอาไปทำให้คนที่คุณรักทานกันด้วยนะคะ Bon Appetit ค่ะ ^^



วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เห็ด portobello อบชีส มั่วๆก็อร่อยได้นะตัวเธอววววว

สวัสดีค่ะแฟนเพจทุกท่าน  เดือนนี้มาเอาวันสุดท้ายอีกแล้ว  จริงๆอยากทำอาหารบ่อยๆนะคะ  แต่ด้วยเพราะไม่มีครัว  แล้วคุณแม่ก็มาไม่สบาย  ส่วนใหญ่ก็จะทำซุปใส  ต้มจืด  ซึ่งก็ไม่ได้ยากซักเท่าไหร่  เลยไม่ได้เอามาลง  มาวันนี้!!!!!!!!!!!!  ไปเจอเจ้าเห็ดยักษ์นี่  ช่วงนี้เห็นมีขายเยอะ  เอาล่ะ  ตอนแรกอยากทำเห็ดปิ้ง ราดซอสแซ่ปๆ  แต่พอคิดไปคิดมา  อยากทานอะไรที่เยิ้มๆชีส  เป็นอันว่าเอาอันนี้ล่ะ  ลองทำดู  อร่อยก็เอาลงบล๊อค  ไม่อร่อยก็ไม่เอาลง 55555555
มาเริ่มที่ส่วนผสม  บอกตรงๆเลยว่า  สูตรใครสูตรมัน  ใครอยากทานแบบไหน  ก็ทำได้เลย  ฟลุ๊ครู้สึกเลยว่าเมนูนี่มันฟรีสไตล์มาก  บางคนจะทาเนยกระเทียม  เข้าตบอบก็ได้  บางคนจะโรยเครื่องเทศ  โปะชีสแล้วเข้าเตาอบก็ได้  แต่นั่นมันจะง่ายไป  เราขอทำซอสโปะนีดส์นึงนะ  ส่วนสูตรวันนี้ที่ทำ  ก็มั่วๆไปค่ะ
มีเห็ด  portobello ฟลุ๊คซื้อมาแพ๊คนี้ก็ 79 บาทค่ะ กระเทียมสับ 2-3 กลีบ หัวหอมใหญ่ พาสลี่ย์  โรสแมรี่ พาเมซานชีส ชีสแผ่น หรือชีสต่างๆในตู้เย็นที่คุณมีน่ะค่ะ  เนื้อหมู  จริงๆ อันนีจะทำแกงจืดแตงกวายัดใส้หมูสับด้วย  เลยแบ่งหมูสับมานิดนึงค่ะ  เกลือ พริกไทย  ซอสมะเขือเทศ  ใครไม่อยากใส่ก็ได้ค่ะ  ฟลุ๊คใส่ซอสอราเบียต้าที่เหลือจากคราวที่ทำเพนเน่ ลงไปอีกนิดหน่อยด้วย  คราวนี้อยากได้รสเข้มๆ  ไม่อยากให้ได้รสเห็ดกับชีสอย่างเดียว  เพราะตอนแรกกลัวว่าเห็ดจะกลิ่นแรงไปหน่อยด้วยซ้ำ
มาเริ่มกันที่ตัดก้านเห็ดที่โผล่ออกมาจากดอกเห็ด  เอาสับๆๆ ไว้ผัดกับซอสค่ะ
เห็ด  portobello ก็เอาไปเข้าไม่โครเวฟ ซัก 2-3 นาที ให้มันสุกก่อนค่ะ  เพราะถ้าใครใช้เตาอบเล็กๆง่อยๆแบบฟลุ๊ค  ไฟบนจะแรงมาก  ปรับอุณภูมิไม่ได้  แล้วชีสมันจะไหม้ซะก่อนที่เห็ดจะสุกนะคะ   พอยกออกมาจากไมโครเวฟ  ก็ทาเนยหรือน้ำมันมะกอกให้ทั่วดอกเห็ดด้านนอกเลยนะคะ  กันไหม้และติดค่ะ

แล้วก็มาถึงซอสที่เราจะเอาโปะลงไปบนเห็ด  ง่ายมากค่ะ น้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนโต๊ะ เอากระเทียมสับละเอียดลงไปผัด  พอกลิ่นหอมก็ใส่หัวหอมลงไป  ใส่หมูสับลงไป  ผัดให้พอสุกแล้วก็ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย  ใส่ซอสอราเบียต้าลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ ชิมรสอีกที  อย่าลืมว่าชีสที่เราใส่มีรสเค็ม  ตอนปรุงรสซอส  อ่อนเค็มซักนิดนึงก็จะดีค่ะ  ถ้าพอดีแล้วก็ รูดโรสแมรี่ลง 1 ก้าน พาสลีย์สับ 1 หยิบมือ โรยพาเมซานชีส คนให้เข้ากัน  เป็นอันเสร็จค่ะ  ถามว่าไม่ใส่ได้มั้ย  ได้ค่ะ
ใส่เป็นเครื่องเทศรวมที่สำหรับใส่ในซอสสปาเก็ตตี้ก็ได้ค่ะ
  พอเสร็จแล้วก็จะได้ทั้งกลิ่น  ทั้งรส  ที่กลมกล่อม  แล้วก็ตักโปะลงบนเห็ดที่เราเตรียมไว้ค่ะ
แล้วก็ขูดชีส  โปะ ละเลง ชีสที่เราจะใส่ลงไป  ตามใจชอบได้เลยค่ะ 
ฟลุ๊คโรยชีสก่อน  จำชื่อไม่ได้  แต่รสชาติเข้ม  อร่อยมาก  กลิ่นแรงนิดนึงค่ะ
แล้วก็โปะชีสแผ่นลงไป  พร้อมเข้าเตาอบ


 แล้วก็ตั้งตารอหน้าเาตบ  พอให้ชีสละลาย เปลี่ยนสีนิดหน่อย  ก็เตรียมจาน   พร้อมเสริฟได้แล้วค่ะ
เห็นมั้ยยยยยยยยย  มันง่ายอ่ะ  ใช้เวลาทำแ๊บเดียวจริงๆ  ลองไปทำทานดูนะคะ  แล้วอย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ Bon Appetit ค่ะ ^^


วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

อาหารเพื่อสุขภาพ โซบะหมูคั่วงาน้ำซุปผักบีทรูท ไม่ยาก แถมหอมหวานอร่อย มีประโยชน์สูง

สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจทุกท่าน    ขอโทษที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัฟโหลดเมนูซักเท่าไหร่  อย่างที่บอกว่าแม่ฟลุ๊คไม่สบายค่ะ  และก็พึ่งได้ทราบผลว่าก้อนเนื้อที่ตัดไปนั้นเป็นมะเร็ง  ระยะที่เท่าไหร่  หมอบอกว่ายังไม่มีการลุกลาม
อาการเริ่มต้นแม่ฟลุ๊คจะท้องอืด  อาหารไม่ย่อย  ปวดท้องตลอดเวลา   ปวดเหมือนปวดกระเพาะธรรมดา  จนเริ่มมีอาเจียนและถ่ายดำ  จึงพาไปหาหมอ  สรุปว่าเจอก้อนเนื้อในกระเพาะ  จึงต้องผ่าออก
และผลก็นั่นแหละเป็นอย่างที่เรากลัวกัน  แต่ก็กลัวไม่ได้  เราต้องอยู่กับมันค่ะ  นี่ก็เริ่มทำคีโมครั้งแรกไปแล้ว  ทานอะไรไม่ค่อยได้  เพลีย  อ่อนแรง  อาเจียน  เป็นผลจากการให้ยา
พอดีเมื่อวันก่อนแม่บ่นว่า  อยากทานอะไรที่เป็นน้ำๆ  เส้นๆ  ก็เลยเป็นที่มาของเมนูนี้ค่ะ
เครื่องปรุงก็ไม่มีอะไรมาก  ผักที่เราจะใช้ทำน้ำซุป  ก็จะมี กระดูกหมู แอปเปิ้ล หอมหัวใหญ่  แครอท  มันฝรั่ง หัวกะหล่ำ บีทรูท  ที่ฟลุ๊คใส่บีทรูทด้วยเพราะรู้สึกว่าคนป่วย  กินแต่อาหารจืดชืด  ไม่มีสีสัน  ดูไม่น่าอร่อย  ก็เลยใส่หัวบีทรูทลงไปด้วยเพื่อสีที่สวยงามค่ะ ใครจะใส่แตงกวา หรือผักอย่างอื่นด้วยก็ได้ค่ะ แล้วแต่จะชอบ  ฟลุ๊คเลือกใช้เป็นผักแบบอินทรีย์ทั้งหมดค่ะ 


ง่ายๆเลยค่ะ  ล้างผักทุกอย่างให้สะอาด  แล้วเอาลงหม้อ(หุงข้าว)  ก็คนมันไม่มีครัวนี่นา T^T  เอากระดูกหมูลงไปก่อน  แล้วก็หั่นผักทั้งหมด  เติมน้ำ ปรุงรสด้วยแม๊กกี้  ซีอิ๊วขาว  ใครจะใส่ซุปก้อนด้วยก็เยี่ยมเลย ค่ะ  แต่นี่ทำให้แม่ทานด้วยเลยไม่ได้ใส่ แล้วก็กดปุ่มเหมือนเราหุงข้าวน่ะค่ะ  ต้มไปซัก 2ชั่วโมง

พอเสร็จก็หันไปรวนหมู  เอาเนื้อหมูสับ  มาเหยาะน้ำมันมะกอกซัก 3 ช้อนโต๊ะ  ใส่งาลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ  ซีอิ้วขาวนิดหน่อย  ซอสหอยนางรม นิดหน่อย แนะนำให้ใช้เมกาเชฟ หรือลีกุมกี่นะคะ  คลุกๆให้เข้ากัน  แล้วเอาเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุด ประมาณ 5-8 นาที  ประมาณนาทีที่ 3-4 เอาออกมาคนๆให้เข้ากันด้วยนะคะ  พอสุกก็หันไปทำกระเทียมเจียว  ทุบกระเทียม  แล้วเอาใส่น้ำมันมะกอก  เอาเข้าไมโครเวฟ  ตั้งไฟกลาง  เอาออกมาคนทุก 1 นาที จนกว่ากระเทียมจะสุก  พอเริ่มเปลี่ยนสี  ก็เอาออกมา  เพราะความร้อนในน้ำมันยังมีความร้อนอยู่  พอยกออกมาก็เอาช้อนคนซักพัก  กระเทียมเจียวก็จะสุกหอมเชียวค่ะ
เสร็จแล้วก็หันมาลวกเส้นโซบะ  เอาน้ำใส่ชามใหญ่  เอาเข้าไมโครเวฟ จนน้ำเดือด  แล้วเอาเส้นใส่ลงไป  ต้มต่ออีก 4 -5 นาทีเป็นอันเสร็จ  แล้วเทลงตะกร้า  นวดเส้นอย่างเบามือจะได้เส้นโซบะที่เหนียวนุ่มอร่อยค่ะ

พอเตรียมทุกอย่่างเสร็จแล้ว  ก็หยิบเส้นลงถ้วย  ตักหมูคั่วงาโปะลงไป  ราดน้ำซุปที่เราเตรียมไว้  บีทรูทที่เราต้ม  เอามาซอยลูกเต๋าเพิ่มลงไป  จะหวาน และน้ำสีสวยเชียวค่ะ   หยอดกระเทียมเจียว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย  พร้อมเสริฟร้อนๆ  น้ำซุปหวานอร่อยล้ำค่ะ


ไม่ยากเลยนะคะสำหรับเมนูเพื่อสุขภาพ  อย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ  Bon appetit ค่ะ ^^





วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

เพนเน่ผัดหอยลายสไตล์อิตาเลี่ยน แต่รสชาติจัดจ้านแบบฉบับไทยแท้

สวัสดีมิตรรักแฟนเพจทุกท่าน  ขออภัยที่เดือนนี้มาลงซะวันสุดท้ายของเดือน  พอดีแม่ฟลุ๊คไม่สบายเข้าโรงพยาบาลไปหลายอาทิตย์ ต้องคอยไปดูแลแม่ เลยไม่ได้ทำอะไรทานค่ะ  แต่วันนี้แม่ออกโรงพยาบาลแล้ว  เลยต้องขอทำเมนูเด็ดลงซะหน่อย  เดี๋ยวเพื่อนๆจะลืมบล๊อคน้อยๆอันนี้ไปซะ   จานเด็ดวันนี้ทำง่ายมากค่ะ  และอร่อยด้วย  เวลาอยู่บ้านไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี  ก็จะทำเมนูนี้ทานกันค่ะ  นั่นก็คือเพนเน่ผัดแบบอิตาเลี่ยน  แต่ใส่พริกแห้งและพริกป่น รสชาติจัดจ้าน  ปรกติทำทานก็ไม่ใส่หอยลายนะคะ  ทำง่ายๆ  เอาว่ามีอะไรในตู้เย็นก็ใส่ๆลงไป  แต่พอดีวันนี้กระแดะหน่อย  เพราะจะทำลงบล๊อค  เลยใส่หอยลายลงไปด้วย  แหะๆ   มาเริ่มที่เครื่องปรุงกันก่อนค่ะ
ก็จะมีมะเขือเทศลูกโตๆ  ใครจะใช้มะเขือเทศราชินีก็ได้นะคะ  แต่ฟลุ๊คชอบแบบน้ำๆเนื้อๆเยอะๆ  ก็เลยใช้มะเขือเทศลูกโต  หอมใหญ่  กระเทียม  พริกแห้ง  พาสลี่ย์  หอยลาย  มะกอกแบบคว้านเมล็ด  ใครมีมะกอกดำ  จะใช้มะกอกดำก็ได้ค่ะ  เกลือ  พริกไทย น้ำตาล เส้นเพนเน่  ใครจะใช้เส้นอื่นก็ได้นะคะ  แต่ที่ฟลุ๊คทำเนี่ยมันเผ็ด  เลยไม่อยากใ้เส้นยาว  เดี๋ยวเผ็ดแล้วต้องมาซู๊ดปากทานกันอีก  และน้ำมะเขือเทศแบบอราเบียต้าค่ะ  ฟลุ๊คชอบใช้ของนานา  ราคาไม่แพงมาก  และรสชาติกลางๆ  สำหรับใครที่ถามว่าซอสสปาเก็ตตี้แบบสะเร็จใช้อะไรก็ไม่อร่อย  ลองนานาดูค่ะ  แต่ยังไงเราก็ต้องปรุงรสเพิ่มอยู่แล้ว  เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องซอสที่ใช้มาก
เริ่มที่ลวกเส้นเพนเน่ก่อนนะคะ  ต้มให้สุก  ใส  ไม่เละนะคะ  พอนิ่มเพราะเดี๋ยวเราต้องไปผัดต่ออีกค่ะ
ประมาณ 10 นาทีก็พอค่ะ  น้ำที่ต้มก็ใส่เกลือลงไปประมาณหยิบมือนึงนะคะ  พอต้มเสร็จเราก็ใส่กระชอนแล้วราดน้ำมันมะกอกลงไปพอคลุกเคลือบไม่ให้เส้นติดกันค่ะ
แล้วก็มาเริ่มที่ซอส
ซอยกระเทียมบางๆ  พริกแห้งหั้นหยาบๆ  ประมาณเซ็นนึง  แล้วก็หั้นมะเขือเทศเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋า  ไม่ต้องเล็กมากนะคะ  เดี๋ยวจะไม่ได้เนื้อ  จะยุ่ยไปหมดตอนเราผัดค่ะ  แล้วก็หอมใหญ่สับประมาณ 1 หัวใหญ่  ส่วนพาสลี่ย์ก็หั่นละเอียดเตรียมไว้ค่ะ
เริ่มตั้งกระทะ(ไฟฟ้า) ใส่น้ำมันมะกอกลงไป  ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ  ใครทำแค่จานเดียวก็ 1 ช้อนโต๊ะก็พอค่ะ  แต่นี่ฟลุ๊คทำเผื่อพี่ๆที่ชอบทานเมนูนี้ด้วยเลยทำเยอะหน่อย   พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมและพริกแห้งลงไปผัดให้หอมสำลักกันไป7-8บ้าน  ใส่มะกอกตามลงไปมากน้อยแล้วแต่ความชอบ  แล้วก็ใส่หอยลายลงไปผัดจนหอม  ออกมาและดูหน้าตาดีเชียว

 แล้วก็เทพวกมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่ลงไป  ผัดๆๆๆๆๆ  จนหอมสีใสนะคะ  เทน้ำซอสลงไปค่ะ  เคี่ยวซักพัก  ปรุงรสด้วยเกลือ  พริกไทย  น้ำตาลพอให้รสกลมกล่อม  เคี่ยวซักพักจนที่อย่างผสมคลุกเคล้าเข้ากันดี  และโรยพาสลี่ย์สับลงไป

  คลุกเคล้าให้ทั่ว  เป็นอันเสร็จสำหรับซอสค่ะ  ใครชอบรสเผ็ด  ก็เติมพริกป่นลงไปอีกได้ค่ะ
เสร็จแล้วก็ใส่กล่องเก็บแช้ตู้เย็นไว้  เวลาจะทานก็ตักมาผัดกับเส้นอีกที   แต่ฟลุ๊คชอบผัดไปเลย  ก็เทเส้นลงไปผัดเลยค่ะ  พวกน้ำๆนี่ไม่ต้องห่วงนะคะ  ทิ้งไว้ซักพักใหญ่ๆ  เนื้อมันจะดูดน้ำกลับเข้าไปเองค่ะ  ตอนทำไม่ต้องเติมน้ำเพิ่มนะคะ  หรือเติมมากสุดครึ่งถ้วยค่ะ  ก็เทน้ำลงไปในขวดซอสแล้วเขย่า  เอาที่ติดขวดนั่นแหละ   เติมแค่นั่นพอค่ะ  ไม่งั้นมันจะเจิ่งนองเน่อเจ้า
พอเราใส่เส้นลงไปก็ผัดต่ออีกซักครู่ค่ะ  พอให้มันเข้ากัน  แล้วก็ตักใส่ชาม  หรือกล่องเพื่อเก็บไว้ให้คนที่คุณรักทานได้เลย  เห็นมั้ยคะ  มันง่ายมากๆ  ขั้นตอนก็ไม่เยอะ  ถึงบอกว่ามักจะทำเวลาไม่รู้จะทำอะไรดี  ใช้เวลาไม่นานแถมอร่อยอีกต่างหาก

 ยังไงก็ลองทำกันดูค่ะ  แล้วอย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ  Bon Appetit!!!!!!!!!




วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ส่งท้ายเดือนแห่งความรักด้วยข้าวผัดสตอเบอรี่ กับ ต้มยำคอลลาเจนเห็ด3สหาย ไม่มีครัวแต่ชอบทำของอร่อยอ่ะ

สวัสดีค่ะทุกคน  เดือนนี้แอบมีเมนูส่งท้ายเดือนแห่งความรักด้วยแหละ   เกลียดเดือนนี้มากกกก  ไปไหนก็มีแต่คนจัดร้าน จัดโปรโมชั่นวันแห่งความรัก  เพื่อคนที่มีคู่ ใครมาเป็นคู่รักอย่างนั้นอย่างนี้ บลาๆๆๆๆๆ
ส่วนเราอยู่เป็นจขี้(คี่)  ไปไหนเห็นแล้วมันขวางหูขวางตา  เห็นใครเดินจับมือกันเป็นคู่กระหนุงกระหนิง  แล้วอยากจะเดินเข้าไปตบให้ความรักกระจาย!!!!!!!!   5555  เป็นความขอย(อิจฉา) ส่วนตัว  นะคะ  อย่าคิดมาก  จริงๆแล้วชีวิตจริงออกจะเป็นนางเอก  ทำปากดีไปงั้น  กลับบ้านไปนอนฟังเพลง ร้องไห้คนเดียว 555   อ่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ  เมนูวันนี้ขอเสนอ  ข้าวผัดสตอเบอรี่  และ ต้มยำเห็ด 3 สหาย  คือใส่เห็ดไป 3 อย่างไง  อันได้แก่ เห็ดฟาง ยานางิ และเห็ดถั่ว  ดอกเล็กๆ  แต่ลำขนาดเจ้า(อร่อยมาก)

 ส่วนคอลลาเจนได้มาจากตีนไก่ค่ะ
ส่วนประกอบของต้มยำคอลลาเจนเห็ด 3 สหายก็จะมี  เครื่องต้มยำ ขิง  ข่า  ตะไคร้  ใบมะกรูด  ผักชีต้นหอม มะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ ตีนไก่ เห็ดสามอย่างตามที่กล่าวมาข้างต้น  ใครจะใส่เห็ดอย่างอื่น  เป็น 5-6-7 สหาย  ไม่ว่ากันนะคะ  แล้วแต่ว่าใครหาได้แบบไหน  ซุปก้อนต้มยำ  (อันนี้เพื่อความมั่นใจ) ฟลุ๊คว่ามันแทบจะไม่มีรสชาติเลยอ่ะ   พริกขี้หนูทุบ  มะนาว  น้ำปลา
 ก่อนที่เราจะไปเตรียมทำข้าวผัด  เราก็เอาซุปก้อน  ต้มกับ ขิง ข่า  ตะไคร้ทุบ และตีนไก่ไว้ก่อนนะคะ  ฟลุ๊คเอาต้มในหม้อหุงข้าวค่ะ(น่าฉงฉาน) T^T  ต้มไปเลยค่ะ  ไม่ต้องกลัว  มันต้องเปื่อยๆถึงจะอร่อย

มาถึงการเตรียมส่วนประกอบของข้าวผัด  ทั่วไปเลยค่ะ  แล้วแต่ว่าเราอยากใส่อะไรลงไป  วันนี้ก็จะมี ข้าวร่วนซุย  คือข้าวที่หุงไว้เมื่อวาน  หรือบ้านใครชอบทานข้าวเก่า  ข้าวเก่าคือ ข้าวที่เก็บเกี่ยวไว้ 1-2 ปีแล้ว  ลองไปดูตามร้านข้าว  เค้าจะติดป้ายไว้ว่าข้าวใหม่ ข้าวเก่า  ส่วนใครที่ซื้อแบบถุง 5 กิโล ส่วนใหญ่ จากในห้าง ย้ำนะคะว่าส่วนใหญ่  จะเป็นข้าวเก่าค่ะ  เอาข้าวอะไรก็ได้อ่ะ  ให้ร่วนๆ เป็นเม็ดๆ  จะอร่อยค่ะ ไข่ไก่ 1-2 ฟอง  แฮม 3 แผ่น เบค่อน 2 เส้น  ผัดสามสี(แครอท ถั่วลันเตา ข้าวโพด) ต้นหอมซอย  ใครไม่ใส่  จะใส่หอมหัวใหญ่แทนก็ได้ค่ะ  แต่ฟลุ๊คชอบต้นหอมซอย  หอมและสีสวย  และที่ขาดไม่ได้คือ สตอเบอรี่ค่ะ
ตั้งกระทะ(ไฟฟ้า) ให้ร้อน  ขออภัยที่คราวนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาให้ดู  เพราะต้องรีบทำ  ทำหลังบ้าน  แล้วช่วงนี้แมลงเม่าตัวเล็กๆเยอะมากกกกกกกก  บินออกมาเล่นไฟกันเพียบ  จะถ่ายรูปทีต้องเปิดไฟที  แล้วก็ต้องทำอาหารในที่มืดๆ  (น่าอนาถอีกแล้ว)  ก็คนมันรักอ่ะ  ทำไงได้
เริ่มที่ ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ   เอาแฮมกับเบค่อนลงไปผัด  จะหอมมากค่ะ ใครจะผัดกับกระเทียมก็ได้  แต่วันนี้หากระเทียมไม่เจอ 555 
พอแฮมกับเบค่อนเริ่มเปลี่ยนสีและแฮ่ม(แห้ง)  ก็ใส่ไข่ลงไปค่ะ  ตีคนไข่ในกระทะ ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส  ซอสหอยฯ  แล้วเอาผัดสามสีลงไปผัดด้วยกันเลยค่ะ   พอทุกอย่างสุกสีสวย  ก็เอาข้าวลงไปผัดค่ะ  ผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว  ให้ข้าวลงไปคลุกๆ  บี้ๆ ให้อย่าเหลือข้าวสีขาวนะคะ  มันจะไม่งาม  แล้วปรุงรสอีกทีด้วยซอสปรุงรส  และน้ำปลาค่ะ  ใครจะใส่ซีอิ๊วขาวก็ได้  แต่ฟลุ๊คแนะนำให้ใช้น้ำปลาค่ะ  มันจะหอมกว่า
ผัดไปเรื่อยๆ  ให้ข้าวแบบติดกระทะหน่อยๆ  มันจะหอมขึ้นค่ะ  พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว  ก็ใส่สตอเบอรี่และโรยต้นหอมซอยไปอย่างสุดท้าย  ปิดไฟ  แล้วคลุกอีกหน่อย  เป็นอันเสร็จค่ะ
เสร็จแล้วก็ตักใส่จาน  หรือจะ ตักใส่ถ้วยเพื่อไปควบในจานอีกทีเพื่อความสวยงามแล้วแต่จริตของแต่ละคนค่ะ

คือจริงๆอ่ะ  ฟลุ๊คทำสลับกัน  คือพอเตรียมเครื่องข้าวผัดเสร็จก็ไปทำต้มยำต่อ  แต่กลัวท่านผู้อ่านจะสับสน  ก็เลยเขียนออกมาเป็นอย่างๆดีกว่า
มาต่อที่ต้มยำที่เราต้มตีนไก่ไว้นะคะ  พอตีนไก่นิ่มแล้ว  เราก็ใส่เห็ดลงไป ต้มอีกประมาณ 3-5 นาที แล้วแต่ปริมาณที่เราทำ  ปรุงรสด้วย พริกขี้หนูทุบ  น้ำมะนาว  น้ำปลาค่ะ  พอได้รสชาติที่เราต้องการ  ก็ใส่มะเขือเทศ  กับหอมหัวใหญ่ (ใครจะไม่ใส่ก็ได่ค่ะ) โรยด้วยใบมะกรูดฉีก

 ก่อนจะปิดไฟก็โรยหน้าด้วยต้มหอมผักชี เป็นอันเสร็จค่ะ  พอตักใส่ถ้วย  ฟลุ๊คชอบแอบใส่ใบกระเพราให้หอมอีกหน่อย  รสชาติจัดจ้าน  ซดร้อนๆ  มันแซ่ป!!!!!!!
แค่นี้!!!!!!!!!!!  ไม่ยากเลยะนะคะ  และขอบอกว่าข้าวผัดอร่อยมากค่ะ  ใครที่ไม่ชอบมะเขือเทศ  หรืออยากลองอะไรใหม่ๆ  ก็ลองกันดูนะคะ   และอย่าลืม  ทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ  Bon Appetit ค่ะ





วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แกงเขียวหวานไก่ทำง่ายๆในเวลาแป๊บๆ มีแค่กระทะไฟฟ้าก็อร่อยเริศได้นะจ๊ะ

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน  นึกว่าเดือนนี้จะไม่ได้ทำอะไรลงบล๊อคซะแล้ว  มันมีหลายเรื่องให้ต้องเหนื่อยค่ะ  เลยไม่ค่อยมีเวลา  กลับถึงบ้านก็น๊อคหลับไปเลย  อยากจะทำนั่นนู่นนี่หลายอย่าง  แต่ก็เหนื่อยมากกกกกกก  เฮ้ย  เวลามันเหนื่อยๆ  ถ้ามีใครซักคนมาถามว่า  วันนี้เป็นไง  เหนื่อยมั้ย  ไหวหรือเปล่า  มันจะรู้สึกไม่เหนื่อยเลยนะ  แต่นี่เวลามีเรื่องอะไรขึ้นมา  รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวยังไงไม่รู้  ไม่มีใครให้พึ่ง(รู้ว่าคนเรามันต้องพึ่งตัวเอง)  แต่ก็ขอนิดนึงเนาะ  อยากมีใครไว้คอยให้เป็นกำลังใจให้  ผู้หญิงทุกคนก็เป็นแหละ  ขนาดผู้หญิงที่มีสามีแล้วยังเป็นเล้ยยยยย 55555   มาๆๆๆ เข้าเรื่องกันต่อ   วันนี้จะทำเมนูง่ายๆ  ถึงง่ายที่สุด(เพราะไม่ต้องเตรียมพริกแกงเอง)  หม่อมแม่ของอิชั้นอยากรับประทานแกงเขียวหวานแสนอร่อย  ก็เลยต้องจัดให้นางนิดนึง  มาเรอ่มที่เครื่องปรุงกันก่อนเลยค่ะ
พริกเครื่องแกงเขียวหวาน ( แล้วทำไมมีพริกแดง  แกจะทำแกงเขียวหวานไม่ใช่เหรอ  ใช่มะ)   คืองี้  เวลาทำแกงเขียวหวานน่ะ  ถ้าใส่แต่เครื่องแกงเขียวหวาน  สีมันจะออกมาไม่สวยนะฟลุ๊คว่า  มันจะออกมาเขียวโคลนๆ  คือบ้านฟลุ๊คจะทำแบบแห้งๆหน่อย  ไม่น้ำเยอะเหมือนร้านข้าวราดแกงน่ะค่ะ  พอทำน้ำขลุกขลิกมันจะออกมาแบบ โอ้วโนว!!!!!!!!!!!  นึกออกมั้ย  เลยต้องใส่เครื่องพริกแกงแดงลงไปนิดนึงเพื่อสีที่สวยงาม  เคล็ดลับนี้ต้องขอขอบคุณพี่ตุ๊ก นะคะ  กราบบบบบบบขอบพระคุณค่ะ
ต่อมาก็มะเขือเปราะ  พริกชี้ฟ้าแดง  ใบมะกรูด  ใบโหระพา  น้ำปลา  น้ำตาล (มันเหลือจากซื้อก๋วยเตี๋ยวมากินเยอะ  เลยใช้แบบซองที่เหลือมาค่ะ แหะๆ ) 2-3 ซองแล้วแต่ปริมาณที่ทำ  กะทิ  1 -2 กล่อง และไก่จะครึ่งตัวหรือ 1 ตัวก็แล้วแต่ปริมาณสิ่งมีชีวิตในบ้านท่าน  หรือปริมาณที่ท่านจะเติมเต็มเข้าไปในร่างกาย  อยากมากอยากน้อยว่ากันไป
เริ่มที่ตั้งกระทะ(ไฟฟ้า) ใส่น้ำกะทิลงไปผัดกับเครื่องแกงให้หอม  ทั้งแกงเขียวหวานและแกงแดงผัดจนแตกมัน  ใช้ไฟกลางนะคะ  ไม่งั้นมันจะเดือดปุดๆและจะกระเด็นทำให้คนทำสะดุ้งได้  ถ้าทำแกงเขียวหวานหม้อนึง  ใส่พิกแกงแดงลงไปซัก 1-1.5 ช้อนโต๊ะค่ะ  ผัดไปเรื่อยๆจนกะทิแตกมัน  ส่งกลิ่นหอม
แล้วก็เตรียมใส่ไก่ลงไป  ไก่นี่ขอแบบติดกระดูกนะคะ  ให้แม่ค้าสับมาให้เลย  มันต้องมีกระดูกถึงจะอร่อย  เจงๆนะ  และแนะนำให้มีเครื่องเครื่องในด้วย  เพราะอะไร?  เพราะมันอร่อยค่ะ  แต่ถ้าใครไม่ทานไก่  หรือทานสัตว์ปีกไม่ได้  ก็ใช้กุ้ง  ปลาอะไรก็ได้นะคะ  แต่แนะนำถ้าจะใช้ปลา  นำปลาไปทอดก่อนนิดนึงจะอร่อยค่ะ

 พอเทไก่ลงไปแล้วก็ผัดอย่างเบามือนะคะ  พอไก่เริ่มตึง  ก็เทน้ำลงไปค่ะ  ทีนี้เปิดไฟแรง  ต้มไปอีกสักพักให้น้ำงวดลงอีกหน่อย
ถ้าใครชอบมะเขือแบบเปื่อยๆเละๆหน่อยก็ให้ใส่มะเขือลงไปตั้งแต่น้ำเริ่มเดือดเลยค่ะ  แต่ถ้าใครไม่ชอบให้ใส่ตอนน้ำเริ่มงวด
แล้วก็ต้มไปอีกสักพักใหญ่ๆจนน้ำขลุกขลิก  โรยพริกใบมะกรูดส่วนนึงลงไป  ฟลุ๊คชอบใส่สองอย่า
นี้ลงไปก่อนปิดไฟ  ให้พอสุก  เพราะมีความคิดส่วนตัวว่า  พริกจะไม่เหม็นเขียว 555  แล้วเก็บอีกนิดหน่อยไว้โรยแต่งหน้าค่ะ  
พอไก้สุกแล้ว  น้ำขลุกขลิกตามที่ต้องการแล้ว  มะเขือนิ่มแล้ว  ก็ปิดไฟ และโรยหน้าด้วยใบโหระพาอีกทีค่ะ  เป็นอันเสร็จค่ะ


เท่านี้จริงๆๆๆๆๆๆ  มันง่ายมวากกกกกกก  แล้วก็ตักใส่ถ้วย  ใครชอบข้าวสวยร้อนๆ  หรือขนมจีนอร่อยๆ  ก็ตักราดกันตามใจชอบเลยค่ะ  ทำง่ายใช่เวลาไม่นาน  ก็ได้แกงเขียวหวานแสนอร่อยละเน้ออออ
แล้วอย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ  Bon  appetit  ค่ะ ^^