จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แฮมเบอเกอร์เนื้อหนานุ่มชุ่มฉ่ำทั้งคำ

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคน  ขอโทษที่หายไปนานเลย  เนื่องจากมีเรื่องกลุ้มใจหลายอย่างจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งสิ้น  T^T  แต่วันนี้ (1 มิย 55) ถูกหวยค่ะ  เกิดมาพึ่งเคยถูกหวย!!!!!!!!!!!!  ถามว่าถูกเท่าไหร่  20 บาท  555  ก็คนมันงบน้อยอ่ะนะ
จึงอารมณ์ดีและอยากทำของอร่อยๆให้คุณแม่ทานด้วย
ก็เลยเป็นที่มาของเบอเกอร์เนื้อแสนอร่อยนั่นเองจ้า  มาเริ่มกันด้วยไปจ่ายตลาด  เลือกซื้อเนื้อบด
ฟลุ๊คเลือกซื้อที่แมคโครค่ะ  เนื้อเค้าจะดีหน่อย  เลือกเป็นเนื้อโคขุนบด มากน้อยแล้วแต่จำนวนผู้รับประทานนะคะ  ส่วนผักก็เลือกมาแค่พอทำสลัดและใส่ในเบอเกอร์เท่านั้น  ริมปิง(เชียงใหม่) มีผักสลัดพร้อมรับประทาน  ถุงละ 25-35 บาท  เลือกแล้วแต่ชอบค่ะ ชีสก็ซื้อแบบเป็นแผ่นมาเลยก็ได้ค่ะง่ายดี  จะใช้เป็นแบบธรรมดา หรือแบบรมควันก็ได้ค่ะแล้วแต่ความชอบเลย และที่ขาดไม่ได้คือมะเขือเทศลูกโตๆฉ่ำๆ  ยิ่งโตแบบหั่นชิ้นนึงวางพอดีเบอเกอร์เลยก็ได้ค่ะ  และหอมหัวใหญ่  จะใช่เป็นหอมแขกสีม่วงอ่อนก็ได้นะคะ  สีสันสวยงามดีค่ะ
มาเริ่มกันที่การปรุงเนื้อ  ปรุงแบบคนไทย  หรือตามที่เราชอบค่ะ  สูตรง่ายๆเลย คือสับหัวหอมใหญ่ละเอียดลงไปประมาณครึ่งหัว  ใส่แป้งข้าวโพดลงไปเล็กน้อย  ใครจะใส่หรือไม่ก็ได้นะคะ  แต่ที่ฟลุ๊คใส่เพื่อเนื้อจะได้ติดกันไม่แตกค่ะ  ตอกไข่ไก่ลงไปซัก 2 ฟอง  ปรุงรสด้วย พริกไทยดำ ซอนปรุงรสภูเขาทองฝาเขียว  หรือ แม๊กกี้ค่ะ  ซอสหอยนางรมเล็กน้อย  ตามปริมาณของเนื้อนะคะ  เท่านี้เลยค่ะ  คลุกค่ะ  เอามือเรานี่แหละค่ะ  คลุกไปเลย  ให้เข้ากัน
 ใครไม่มั่นใจยังไงทำกับข้าวก็ต้องใส่ผงปรุงรสไว้ก่อน  ก็อนุญาตินะคะ  ไม่ห้ามกัน  แต่ฟลุ๊คไม่ได้ใส่เท่านั้นเองจ้าาาา  พอคลุกจนเข้าที่ก็ทิ้งไว้สักครู่  หันไปจี่ขนมปังเตรียมไว้เลยจ้า  เลือกขนมปังสำหรับทำแฮมเบอเกอร์จะยี่ห้อไหนก็ได้แล้วแต่ชอบค่ะ  แต่วันนี้พอดีไปเดินริมปิงด้วยก็เลยเลือกแบบโฮมเมดที่ขายในริมปิงมาค่ะ  3 ชิ้น 32 บาท  เนื้อขนมปังเค้านุ่มไม่กระด้างดี  ปาดเนยซักเล็กน้อย อย่าเยอะนะคะ  เดี๋ยวขนมปังจะชุ่มเกินไป  หย่อนลงไปบนกระทะได้เลยค่ะ  แล้วนำขนมปังที่ผ่าครึ่ง หรือ ผ่าค่อน(คือเหลือด้านล่างน้อยกว่าด้านบน) ลงไปจี่กับเนยในกระทะได้เลยค่ะ 
พอเสร็จแล้วก็รอซักครู่  ถึงคราวเอาเนื้อลงกระทะ  ใครจะใช้เนยเพื่อเพิ่มความหอม  หรือน้ำมันมะกอกก็ได้นะคะไม่ว่ากัน  แต่ฟลุ๊คใช้ทั้งเนยนิดหน่อยเอาพอหอม  กับน้ำมันมะกอกลงกระทะเลยค่ะ  แต่ไม่ใช่ลงพร้อมกันนะคะ  เพราะเนยจะไหม้  ลงน้ำมันก่อนพอร้อนก่อนลงเนื้อเราก็ปาดเนยลงไปค่ะ  ปั้นเนื้อเป็นวงกลมประมาณฝ่ามือ  หรือใครอยากได้ใหญ่กว่านั้นก็ได้ค่ะ  แต่อย่าให้เกินขนาดของขนมปังมากนะคะ  พอปั้นวางทิ้งไว้เป็นก้อนๆ ก็โรยด้วยเกลือนิดหน่อย พริกไทยดำนิดหน่อย  หรือใครจะใช้ผงสำเร็จสำหรับทำสเต๊กโรยลงไปเลยก็ได้ค่ะ    แต่ระวังนะคะเพราะเกลือในผงโรยสเต๊กจะเม็ดใหญ่ใส่มากไปอาจจะเค็มเกินไปค่ะ
พอเอาเนื้อลงกระทะก็ปิดฝาค่ะ  ทอดเนื้อในกระทะร้อนๆ ไปประมาณด้านละ 2 นาทีครึ่ง ถึงสามนาที  ทอดทีละด้าน  ห้ามทอดกลับไปกลับมา เพราะเนื้อจะไม่ชุ่มแข็งกระด้างได้ค่ะ
พอพลิกอีกด้านก็ปิดฝาค่ะ  ให้สีด้านนอกเกรียมๆ  ด้านในจะฉ่ำน้ำมากๆค่ะ  พอทอดเสร็จก็จัดวางบนขนมปัง  ใส่ผักตามชอบเลยค่ะ  โปะชีสลองไป ใครชอบดับเบิ้ลชีสก็จัดไปเลย 2 แผ่นนะคะ  เหมาะแท้เหลาเลยล่ะค่ะ

เท่านี้เราก็จะได้เบอเกอร์แสนอร่อย แถมทำได้เองง่ายๆไว้ทานกับเบียร์เย็นๆ หรือ วอดก้ามะนาวโซดาก็ไม่เลวนะคะ

นอกจากจะทำเป็นแฮมเบอเกอร์แบบอเมริกันแล้ว  เรายังทำน้ำซอสราดแบบข้าวแฮมเบิกให้เจ้าตัวน้อย หรือคนที่คุณรักไปทานที่ทำงานได้ด้วยนะคะ  ซอสที่ราดก็น้ำเนื้อที่เหลือในกระทะ  หั่นเห็ดลงไปผัดพอสุก  แล้วใส่ซอสมะเขือเทศ  ปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อย  แม๊กกี้หรือโชยุอีกเล็กน้อย  เท่านี้ก็ได้น้ำซอสแสนอร่อยราดลงไปบนข้าวและเนื้อได้แล้วค่ะ

เมนูที่เด็กๆน่าจะชอบนะคะ  ส่วนตัวฟลุีคไม่มีเด็กๆ  ก็ทำไว้ห่อไปทานที่ทำงานเองค่ะ
หรือใครที่กลัวจะเลี่ยนมากไป แนะนำให้ทานกับข้าวสวยพร้อมสลัดค่ะ  อาจจะซอยพริกบีบมะนาวลงไปบนสลัดเล็กน้อยเพื่อแก้เลี่ยนได้  นี่ก็เป็นอีกเมนูสำหรับห่อให้คนที่รักไปทานที่ทำงานได้นะคะ หนีบซอสมะเขือเทศให้เค้าไปหน่อยก็ดีค่ะ
น้ำสลัดจะใช้เป็นบาลซาลมิค+น้ำมันมะกอก  หรือซื้อน้ำสลัดญี่ปุ่นมาก็อร่อยไม่น้อยเลยค่ะ

ไม่ยากเลยสำหรับเบอเกอร์เนื้อนะคะ  อย่าลืมเอาไปลองทำ หรือ ทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ
Bon appetit ค่ะ ^^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น