เมษาหน้าร้อนโคตรรรร กำลังจะผ่านไปแล้วนะคะ ช่วงนี้ร้อนแสบปอดกันเลยทีเดียว บล๊อคในวันนี้จะมาสอนทำซาลซ่าจ้าาาา เนื่องด้วยบล๊อคอันก่อน เป็นสเต๊คไก่กับซาลซ่าแล้วมีคนถามกันมาว่า ช่วยบอกวิธีทำซาลซ่าให้หน่อย จริงๆก็มีสูตรตามบล๊อคและเวปต่างๆสอนกันไว้มากมายแล้ว แต่เมื่อคุณขอมาเราก็จัดให้นะคะ ^^ อีกอย่างก็เป็นอาหารจานโปรดแถมยังเอาไปประยุกต์เป็นอาหารจานต่างๆได้มากมาย ฟลุ๊คก็เลยจะมาบอกวิธีทำง่ายๆ(มากๆ) กันในวันนี้ค่ะ แต่ไม่รู้จะทานกันกับอะไร ก็เลยทำแผ่นทอทิญ่าทานเองด้วย มาเริ่มกันเลย
วัตถุดิบหลักๆก็จะมี มะเขือเทศกินเนื้อลูกโตๆ ฉ่ำๆ ซัก 2-3 ลูก แต่นี่ชอบทานเยอะเลยซื้อมาเก็บไว้ค่ะ แหะๆ ผักชีไทย พาสลีย์นิดหน่อย ฟลุ๊คชอบกลิ่นมันค่ะ ใครไม่ชอบจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ หอมหัวใหญ่แต่ฟลุ๊คชอบใช้หอมแดงแขกมากกว่า เพราะสีมันออกมาสวยดีค่ะ
เครื่องปรุงรสก็จะมี เกลือ และพริกไทยค่ะ ส่วนใครอยากได้รสชาติจัดจ้านแบบเม็กซิกันนั้น ให้ใส่ทาบาสโก้ลงไปด้วยนะคะ ถ้าใครไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ แล้วในรูปแกเอาบัลซามิคซอสกับน้ำมันมะกอกมาทำไมใช่มั้ย 5555 อย่างที่บอกค่ะว่าซาลซ่านำมาประยุกต์ทำได้หลายเมนู วันนี้ฟลุ๊คจะทำซาลซ่าดิ๊บทานคู่กับแซลม่อนรมควันค่ะ
มาเริ่มวิธีทำกันเลยดีกว่านะคะ หั่นมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่เป็นลูกเต๋า ใส่ลงไปในชามค่ะ ซอยผักชีละเอียดใส่ลงไป ใครชอบน้อยใส่น้อยพอมีกลิ่นเวลาทาน ส่วนใครชอบมาก ใส่เยอะไปเลยค่ะเพราะผักชีมีประโยชน์มากมาย บริเวณใบ มีโปรตีน เส้นใย ฟอสฟอรัส เบต้าเคโรทีน ช่วยบำรุงกระเพาะ เจริญอาหาร แถมยังช่วย ยังขับเหงื่อ ช่วยย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด แก้โรคหัด แก้ผื่น และอื่นๆอีกมากมาย แถมเคยมีคนญี่ปุ่นเค้าบอกว่า ผักชีทานมากๆแล้วผิวจะดี แก่ช้าอีกด้วยค่ะ ประโชน์เยอะเยาะ ทำไมใช้แค่โรยหน้าอาหารก็ม่ายรู้ กลับเข้าเรื่องค่ะ สับพาสลีย์ซัก 2-3 ช่อลงไปค่ะ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใครอยากทานจัดจ้านก็เหยาะทาบาสโก้ลงไป หรือถ้าวันไหนใครอยากทานจัดจ้านก็กว่า ก็แอบซอยพริกขี้หนูลงไปด้วยก็ได้ค่ะ วันนี้ฟลุ๊คก็ซอยพริกขี้หนูลงไปเหมือนกัน แหะๆ ถัดมาก็สูตรเฉพาะของวันนี้ค่ะ ใส่บัลซามิคซอสลงไปประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ สำหรับปริมาณ ส่วนผสมที่เป็นของสด 1 ถ้วยนะคะ ใครทำมากกว่านั้นก็..............กะเอาเองค่ะ
เสร็จแล้วก็คลุกอย่างเบามือให้เข้ากัน ใครชอบชีสจะขูดชีสลงไปหน่อยก็ไม่ว่ากันนะคะ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นรอไว้ค่ะ
แล้วฟลุ๊คก็หันมาทำแป้งทอทิญ่าค่ะ ใครจะไปซื้อก็ได้ มีทั้งแบบธรรมดาแล้วแบบโฮลวีทค่ะ หรือจะซื้อแผ่นแป้งนาโช่แบบสำเร็จมาเลยก็ได้ แต่วันนี้ฟลุ๊คทำเองเพราะประหยัดกว่า ผสมแป้งเอนกประสงค์ หรือแป้งสาลี ลงถ้วย ใส่น้ำมันพืช และเกลือโรยลงไป ค่อยๆเติมน้ำลงไป แล้วนวดค่ะ การผสมแป้งมีบอกไว้ข้างถุงอยู่แล้ว เพราะแต่ละคนทำมากน้อยไม่เท่ากันค่ะ
อย่าถามว่าถ้าไม่มีบอกล่ะ ก็.................อย่าซื้อค่ะ ไปซื้อยี่ห้อที่เค้ามีบอกละกันนะ 555
แล้วก็นวดๆๆๆๆๆ ใครทำน้อยใช้มือนวด ใครทำมากใช้เท้านวดตามแบบสมัยก่อนออริจินัล แต่ใส่ถุงหนาๆก่อนนะคะ นวดจนเนื้อแป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตัดแบ่งค่ะ ปรกติฟลุ๊คจะทำเป็นแผ่นใหญ่ๆแล้วเอามาฉีกทานเอา แต่วันนี้ลงบล๊อค เลยทำเล็กๆค่ะ สำหรับคนที่จะทำปาร์ตี้ค๊อกเทลที่บ้านก็ได้ วิธีทำก็คือหลังจากนวดแป้งเสร็จ ก็นำมารีด โรยแป้งไปด้วยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันติดขวดติดไม้ ติดโต๊ะ อร่อยกันล่ะคราวนี้ สำหรับใครไม่มีไม้นวดแป้งไม่ต้องไปซื้อค่ะ ใช้ขวดแก้วที่ล้างสะอาดแล้ว นวดและรีดได้จ๊ะ รัีดจนเป็นแผ่นบางไม่ต้องบางมากนะคะ เวลาเอาไปอังไฟบนกระทะมันจะแข็งกรอปเกินไปค่ะ คำเล็กๆก็ใช้แก้วค่ะ ปากแก้วกดลงไป ทำเป็นพิมวงกลมแทนนะคะ ตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟปานกลางค่ะ
อังไฟไปเลยเรื่อยๆ จนเหลืองทอง แล้วก็พลิกกลับอีกด้าน ใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณข้างละนาที-2 นาที พลิกไปพลิกมาจนกว่าจะเหลืองออกน้ำตาลก็ได้ค่ะ สวยเชียว เสร็จแล้วก็มาถึงแซลม่อนรมควัน ทำยังไงอ่ะ ไม่ยากเลยค่ะ
เดินไปห้างสรรพสินค้า แล้วไปแผนกของแช่เย็น เลือกปลาแซลม่อนรมควันสีสวยๆมาหนึ่งแพ๊ค เท่านั้นแหละค่ะ 555
ฟลุ๊คก็ทำไม่เป็นอ่ะ ฟลุ๊คไปซื้อที่แมคโครค่ะ แซลม่อนรมควัน รสชาติใช้ได้ ที่สำคัญ แพ๊คละ 99 บาทจ้าาาาาาาา ปรกติขายที่ 120-140หรือมากกว่านั้น ต่อแพ๊คนะคะ แล้วหั่นพอดีคำ ให้พอวางบนแป้งไม่ล้นออกมาค่ะ
ฟลุ๊คก็ทำไม่เป็นอ่ะ ฟลุ๊คไปซื้อที่แมคโครค่ะ แซลม่อนรมควัน รสชาติใช้ได้ ที่สำคัญ แพ๊คละ 99 บาทจ้าาาาาาาา ปรกติขายที่ 120-140หรือมากกว่านั้น ต่อแพ๊คนะคะ แล้วหั่นพอดีคำ ให้พอวางบนแป้งไม่ล้นออกมาค่ะ
พอเสร็จก็น้ำแผ่นทอทิญ่ามาวาง ตักซาลซ่าที่เราทำไว้แบบพูนๆสูงๆหน่อย โปะลงไป แล้ววางทับด้วยแซลม่อนรมควัน เท่านี้ก็จะได้ tomato dip กับแซลม่อนรมควันรสจัดจ้านออกมาแล้วค่ะ วางตกแต่งด้วยพาสลี่ย์ใบน้อยๆ และพรกขี้หนูหั่นอีกชิ้น ก็รับประทานได้เลยค่ะ
จะทำทานเป็นอาหารว่าง กับแกล้ม หรือปารตี้ค๊อกเทลก็ได้ค่ะ อย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ Bon apptit ค่ะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น