จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

เงียบ....รอ....

ความเงียบจากใครคนหนึ่ง  มันทำให้ใครอีกคนกลัวและเจ็บจนถึงแก่น
เพื่อนของฟลุ๊คคนหนึ่ง  มักคุยกับคนที่เธอรักอยู่เสมอ  แม้จะไม่ได้เจอกัน  ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  แต่ต่างฝ่ายก็จะโทรหากัน  เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดคิดถึงกัน
แต่วันนี้มีเพียงเพื่อนฟลุ๊คเท่านั้นที่เป็นฝ่ายโทรไป  เธอคุยเสียงดังขึ้น  ตะโกนเรียกคนที่เธอรักอย่างสุดเสียง  แต่ที่ได้ยินกลับมานั้นมีเพียงความเงียบ...........ที่ดังมาก
เธอรู้มาว่า คนที่เธอรักไปคุยกับผู้หญิงอีกคน  บางครั้งเขาก็โทรไป  หรือเธอคนนั้นก็โทรมา
เขาไม่เคยเป็นฝ่ายที่โทรหาเธอก่อนมานานแล้ว  และในบางครั้งที่เธอโทรไป  ไม่มีการตอบรับ  ไม่มีการโทรกลับจากปลายสาย  เธอใช้ชีวิตอยู่กับการรอคอย  โดยที่ไม่รู้ว่ารออะไร  เพื่ออะไร และต้องรอไปอีกนานแค่ไหน

เพื่อนมักถามว่า  ที่ผ่านมา  ทำไปเพื่ออะไร  เพื่อใคร คนเราจะรอ  จะอดทนไปได้อีกนานแค่ไหน
ไม่มีคำตอบ
มีเพียงความเงียบ.....และน้ำตาก็ไหล

ที่รัก.............อย่าร้องไห้
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ........แค่เหงา
ชีวิตคือการต้องทนอยู่กับ..........ความเหงา
เช็ดน้ำตาซะ..........อย่ารอโทรศัพท์จากเขาอีกเลย




วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

เมนูหน้าร้อนกับซาลซ่าแบบง่ายๆตามคำขอจ้า

เมษาหน้าร้อนโคตรรรร กำลังจะผ่านไปแล้วนะคะ  ช่วงนี้ร้อนแสบปอดกันเลยทีเดียว  บล๊อคในวันนี้จะมาสอนทำซาลซ่าจ้าาาา  เนื่องด้วยบล๊อคอันก่อน เป็นสเต๊คไก่กับซาลซ่าแล้วมีคนถามกันมาว่า ช่วยบอกวิธีทำซาลซ่าให้หน่อย  จริงๆก็มีสูตรตามบล๊อคและเวปต่างๆสอนกันไว้มากมายแล้ว  แต่เมื่อคุณขอมาเราก็จัดให้นะคะ ^^   อีกอย่างก็เป็นอาหารจานโปรดแถมยังเอาไปประยุกต์เป็นอาหารจานต่างๆได้มากมาย  ฟลุ๊คก็เลยจะมาบอกวิธีทำง่ายๆ(มากๆ)  กันในวันนี้ค่ะ  แต่ไม่รู้จะทานกันกับอะไร  ก็เลยทำแผ่นทอทิญ่าทานเองด้วย  มาเริ่มกันเลย
วัตถุดิบหลักๆก็จะมี  มะเขือเทศกินเนื้อลูกโตๆ ฉ่ำๆ ซัก 2-3 ลูก  แต่นี่ชอบทานเยอะเลยซื้อมาเก็บไว้ค่ะ แหะๆ  ผักชีไทย  พาสลีย์นิดหน่อย  ฟลุ๊คชอบกลิ่นมันค่ะ  ใครไม่ชอบจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ  หอมหัวใหญ่แต่ฟลุ๊คชอบใช้หอมแดงแขกมากกว่า  เพราะสีมันออกมาสวยดีค่ะ

เครื่องปรุงรสก็จะมี เกลือ และพริกไทยค่ะ  ส่วนใครอยากได้รสชาติจัดจ้านแบบเม็กซิกันนั้น  ให้ใส่ทาบาสโก้ลงไปด้วยนะคะ  ถ้าใครไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ  แล้วในรูปแกเอาบัลซามิคซอสกับน้ำมันมะกอกมาทำไมใช่มั้ย  5555  อย่างที่บอกค่ะว่าซาลซ่านำมาประยุกต์ทำได้หลายเมนู  วันนี้ฟลุ๊คจะทำซาลซ่าดิ๊บทานคู่กับแซลม่อนรมควันค่ะ

มาเริ่มวิธีทำกันเลยดีกว่านะคะ  หั่นมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่เป็นลูกเต๋า ใส่ลงไปในชามค่ะ  ซอยผักชีละเอียดใส่ลงไป  ใครชอบน้อยใส่น้อยพอมีกลิ่นเวลาทาน  ส่วนใครชอบมาก ใส่เยอะไปเลยค่ะเพราะผักชีมีประโยชน์มากมาย บริเวณใบ  มีโปรตีน  เส้นใย  ฟอสฟอรัส  เบต้าเคโรทีน ช่วยบำรุงกระเพาะ  เจริญอาหาร  แถมยังช่วย  ยังขับเหงื่อ  ช่วยย่อยอาหาร  ลดน้ำตาลในเลือด  แก้โรคหัด  แก้ผื่น  และอื่นๆอีกมากมาย  แถมเคยมีคนญี่ปุ่นเค้าบอกว่า  ผักชีทานมากๆแล้วผิวจะดี แก่ช้าอีกด้วยค่ะ  ประโชน์เยอะเยาะ  ทำไมใช้แค่โรยหน้าอาหารก็ม่ายรู้  กลับเข้าเรื่องค่ะ  สับพาสลีย์ซัก 2-3 ช่อลงไปค่ะ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใครอยากทานจัดจ้านก็เหยาะทาบาสโก้ลงไป  หรือถ้าวันไหนใครอยากทานจัดจ้านก็กว่า  ก็แอบซอยพริกขี้หนูลงไปด้วยก็ได้ค่ะ  วันนี้ฟลุ๊คก็ซอยพริกขี้หนูลงไปเหมือนกัน  แหะๆ  ถัดมาก็สูตรเฉพาะของวันนี้ค่ะ  ใส่บัลซามิคซอสลงไปประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ  น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ สำหรับปริมาณ ส่วนผสมที่เป็นของสด 1 ถ้วยนะคะ  ใครทำมากกว่านั้นก็..............กะเอาเองค่ะ
เสร็จแล้วก็คลุกอย่างเบามือให้เข้ากัน ใครชอบชีสจะขูดชีสลงไปหน่อยก็ไม่ว่ากันนะคะ  แล้วนำไปแช่ตู้เย็นรอไว้ค่ะ

แล้วฟลุ๊คก็หันมาทำแป้งทอทิญ่าค่ะ  ใครจะไปซื้อก็ได้ มีทั้งแบบธรรมดาแล้วแบบโฮลวีทค่ะ  หรือจะซื้อแผ่นแป้งนาโช่แบบสำเร็จมาเลยก็ได้  แต่วันนี้ฟลุ๊คทำเองเพราะประหยัดกว่า  ผสมแป้งเอนกประสงค์ หรือแป้งสาลี  ลงถ้วย ใส่น้ำมันพืช และเกลือโรยลงไป  ค่อยๆเติมน้ำลงไป  แล้วนวดค่ะ  การผสมแป้งมีบอกไว้ข้างถุงอยู่แล้ว  เพราะแต่ละคนทำมากน้อยไม่เท่ากันค่ะ  
อย่าถามว่าถ้าไม่มีบอกล่ะ  ก็.................อย่าซื้อค่ะ  ไปซื้อยี่ห้อที่เค้ามีบอกละกันนะ 555
แล้วก็นวดๆๆๆๆๆ  ใครทำน้อยใช้มือนวด  ใครทำมากใช้เท้านวดตามแบบสมัยก่อนออริจินัล  แต่ใส่ถุงหนาๆก่อนนะคะ  นวดจนเนื้อแป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตัดแบ่งค่ะ  ปรกติฟลุ๊คจะทำเป็นแผ่นใหญ่ๆแล้วเอามาฉีกทานเอา  แต่วันนี้ลงบล๊อค เลยทำเล็กๆค่ะ  สำหรับคนที่จะทำปาร์ตี้ค๊อกเทลที่บ้านก็ได้  วิธีทำก็คือหลังจากนวดแป้งเสร็จ ก็นำมารีด โรยแป้งไปด้วยนะคะ  ไม่งั้นเดี๋ยวมันติดขวดติดไม้ ติดโต๊ะ  อร่อยกันล่ะคราวนี้  สำหรับใครไม่มีไม้นวดแป้งไม่ต้องไปซื้อค่ะ  ใช้ขวดแก้วที่ล้างสะอาดแล้ว  นวดและรีดได้จ๊ะ  รัีดจนเป็นแผ่นบางไม่ต้องบางมากนะคะ  เวลาเอาไปอังไฟบนกระทะมันจะแข็งกรอปเกินไปค่ะ  คำเล็กๆก็ใช้แก้วค่ะ  ปากแก้วกดลงไป ทำเป็นพิมวงกลมแทนนะคะ ตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟปานกลางค่ะ
อังไฟไปเลยเรื่อยๆ จนเหลืองทอง  แล้วก็พลิกกลับอีกด้าน  ใช้เวลาไม่นานค่ะ  ประมาณข้างละนาที-2 นาที  พลิกไปพลิกมาจนกว่าจะเหลืองออกน้ำตาลก็ได้ค่ะ สวยเชียว  เสร็จแล้วก็มาถึงแซลม่อนรมควัน  ทำยังไงอ่ะ  ไม่ยากเลยค่ะ
เดินไปห้างสรรพสินค้า  แล้วไปแผนกของแช่เย็น  เลือกปลาแซลม่อนรมควันสีสวยๆมาหนึ่งแพ๊ค  เท่านั้นแหละค่ะ 555
ฟลุ๊คก็ทำไม่เป็นอ่ะ  ฟลุ๊คไปซื้อที่แมคโครค่ะ  แซลม่อนรมควัน รสชาติใช้ได้ ที่สำคัญ แพ๊คละ 99 บาทจ้าาาาาาาา  ปรกติขายที่ 120-140หรือมากกว่านั้น ต่อแพ๊คนะคะ  แล้วหั่นพอดีคำ  ให้พอวางบนแป้งไม่ล้นออกมาค่ะ
 พอเสร็จก็น้ำแผ่นทอทิญ่ามาวาง  ตักซาลซ่าที่เราทำไว้แบบพูนๆสูงๆหน่อย โปะลงไป  แล้ววางทับด้วยแซลม่อนรมควัน  เท่านี้ก็จะได้ tomato dip กับแซลม่อนรมควันรสจัดจ้านออกมาแล้วค่ะ  วางตกแต่งด้วยพาสลี่ย์ใบน้อยๆ และพรกขี้หนูหั่นอีกชิ้น  ก็รับประทานได้เลยค่ะ
จะทำทานเป็นอาหารว่าง  กับแกล้ม หรือปารตี้ค๊อกเทลก็ได้ค่ะ  อย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วยนะคะ Bon apptit ค่ะ ^^



วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

เครปเค้กให้หมีพูห์ HAPPY BIRTHDAY!!!!!!!!!

เมนูนี้เรียกว่า "เครปเค้ก" ที่อยากทำเค้กเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคนพิเศษ (17 เมษายน) ตอนแรกคิดว่าจะทำเค้กที่ใช้ไมโครเวฟทำ  แต่กลัวว่าออกมาจะไม่สวย  แถมขากลับบ้านลืมซื้อสตอเบอรี่อีก  พอกลับถึงบ้าน  ก็เลยคิดว่า  ลองทำเครปเค้กดูดีกว่า  ช่วงนี้มีแต่คนถ่ายรูปเครปเค้กลงเฟสบุ๊คด้วย  เลยคิดว่าลองทำเองง่ายๆที่บ้านดีกว่า  ขอออกตัวก่อนเลยว่า  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจริงๆ  ผิดพลาดประการใด  ขอสุมาเต๊อะเจ้าาาา


มาเริ่มกันที่ส่วนผสมก่อนเลยค่ะ  ส่วนที่เป็นเครปได้แก่  เนื้อแป้งแพนเค้ก ประมาณ 3-4 ถ้วยตวง ไข่2ฟอง  นมประมาณ 4 ถ้วยตวง  สารภาพเลยว่า  เกิดมาไม่ใช้ใช้ถ้วยตวง  ที่ทำวันนี้ก็ไม่ใช้  ใช้ความกะปริมาณจากประสบการณ์ล้วนๆ แหะๆ

แล้วตีให้เข้ากันค่ะ  อ้ออออ  อีกอย่าง  ฟลุ๊คไม่ทราบว่าเวลาคนอื่นทำเครปหรือแพนเค้กนี่  เค้าร่อนมั้ย  แต่ฟลุ๊คร่อนแป้งก่อนทุกครั้งค่ะ  เพราะรู้สึกว่าเนื้อจะเบากว่าและพอทอดออกมา  เนื้อมันหยุ่นๆไม่กระด้าง  ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะคะ  ตีให้เข้ากันค่ะ  ตีไปเลย  ให้ได้เนื้อแป้งที่ข้นน้อยกว่าแพนเค้กนะคะ  เพราะเราอยากได้แผ่นบางๆ  หากตีแล้วยังข้นอยู่ให้เพิ่มนมจืดลงไปทีละนิดค่ะ

จากนั้นก็ตั้งกระทะได้เลย  ตามที่เห็นดังภาพ  ใช้กระทะไฟฟ้านะคะ  ใครๆก็ทำได้  แม้จะอยู่ที่หอมีแต่กระทะไฟฟ้าจ้า   ใส่เนยลงไปประมาณครั้งละ ครึ่งช้อนชา  ต่อการทอดหนึ่งแผ่นนะคะ  แต่ในภาพเอาเบ้งๆใส่ลงไปให้เห็นเฉยๆค่ะ  555  ครึ่งช้อนชา แป๊บๆก็ละลายหายไปในพริบตา

จากนั้นก็ใช้ทัพพีเล็กๆ  หรือช้อนใหญ่ๆตักแป้งหยอดลงไปค่ะ  ฟลุีคแนะนำให้ทำเล็กๆ  ไม่ต้องให้ใหญ่บานเต็มกระทะ  เพราะเดี๋ยวจะกลับยากค่ะ  ของที่ฟลุ๊คทำ  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15-20 เซนติเมตรค่ะ  แต่ถ้าใครใช้กระทะธรรมดา  แล้วให้มันขนาดพอดีเท่ากันหมด  ก็ไม่ว่ากัน  อาจจะใหญ่เล็กตามอุปกรณ์ที่ใช้ก็ได้จ้า
ตอนไปนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญที่ยากที่สุดค่ะ  คือทอดแผ่นเครปให้ได้บางที่สุดซ้ำๆกันเป็น 15-20 รอบ  เพื่อที่จะไปวางซ้อนกันนั่นเอง  ความยากอยู่ตรงที่ต้องทำใจให้เย็นๆ 555  อย่าเร่งไฟเด็ดขาด  ค่อยๆทอด  พลิกทีละด้าน  แนะนำให้ใช้ตะหลิวแบบ บางๆ  จะได้เกลี่ยหมุนกระจายแผ่นแป้งได้สะดวกค่ะ
ทอดไปเรื่อยๆนะคะ  จนกว่าแป้งจำหมด  หรือได้จำนวนชั้นตามที่เราต้องการค่ะ
ป.ล. ระวังด้วยนะคะ  กระทะร้อนค่ะ  ไม่เช่นนั้นจะเป็นเยี่ยงนี้
และอีกหลายๆที่ตามแขนอวบๆนะคะ ^^

ต่อมา  เราก็หันมาตีครีมค่ะ  ส่วนผสมสำหรับครีมมีแค่ วิปปิ้งครีม 5 ถ้วยตวง นำตาลไอซิ่ง 5-6 ช้อนโต๊ะ  ฟลุ๊คไม่อยากให้ครีมหวานมากเกินไป  เพราะแยมที่เลือกมาทำซอสราด  มีรสค่อนข้างหวานอยู่แล้วค่ะ
แต่ถ้าใครชอบหวานก็ใส่ลงไปเพิ่มและชิมรสตามที่เราต้องการได้ค่ะ  หลังจากนั้นก็ตีค่ะ  ตีไปเรื่อยๆ  ตีจนครีมขึ้นฟูตั้งยอกได้ค่ะ  ของฟลุ๊คนี่  ยังไม่ยอดเท่าไหร่  แต่จริงๆแล้วต้องตี  จนกว่าตะคริวจะขึ้นล่ะค่ะ

เสร็จแล้วก็เริ่มลงมือ ละเลงครีมระหว่างชั้นให้เสมอและสวยงามจ้า  เรียงแบบนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ  พอเสร็จ  ชั้นสุดท้าย  ก็ยกไปเข้าแช่ไว้ในตู้เย็นซัก2 ชั่วโมงกำลังดี  เพื่อให้ครีมเซตตัว  และตัดง่ายนะคะ


 พอได้เวลาก็หามีดคมกริบ  จุ่มน้ำร้อนให้ร้อน  แล้วเอาผ้าเช็ดรูดน้ำออกให้หมด  กดลงไปบนเนื้อเค้ก  แล้วกดรวดเดียวถึงฐานเลยค่ะ  อย่าฉึกฉักเหมือนหั่นหมูนะคะ  เดี๋ยวเค้กจะโย้ได้ค่ะ  มันจะไม่งาม
พอเสร็จก็ตักใส่จาน  พร้อมกับราดซอสเบอรี่  รสชาติตาใจคุณ  ถ้าชอบส้มก็แยมรสส้ม บลูเบอรี่  สตอเบอรรี่  บลาๆๆ  ได้หมดค่ะ  แค่เอาแยมไปอุ่นในไมโครเวฟ  พอละลายเป็นน้ำ ไม่ต้องให้เดือดนะคะ  ถ้ายังร้อน  ก็รอให้เย็นสักพัก  แล้วตัดราดเลยค่ะ  โรยไอซิ่งอีกนิดนึง  แค่นี้ก็ได้แล้ว  เครปเค้กแสนอร่อย  แค่มีกระทะไฟฟ้าก็ทำเค้กกับเค้าได้นะคะ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนอร่อยกับเครปเค้ก bon appetit ค่ัะ



สำหรับคนที่เกิดวันนี้ 17 เมษา ขอให้มีความสุขมากๆ  สุขภาพร่างกายแข็งแรง  และน่ารักแบบนี้ตลอดไปนะคะ ^^

อยากให้ใครคนนั้นได้อ่าน  บทความเก่าๆที่ชอบจัง
ภาพมิตรภาพแสนซื่อ ขณะที่พิกเล็ทเดินตามหมีพูห์ไปต้อยๆ รอยเท้าคู่เล็กๆ ย่ำไปบนหิมะเคียงข้างกับรอยเท้าของพูห์ไปตลอดทาง เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง ทั้งคู่คงเดินมาด้วยกันนานพอสมควร และคงไม่ได้คุยอะไรกันเลย พิกเล็ทเลยต้อง "ขอเสียง"ด้วยการเรียกพูห์ เมื่อพูห์ขานรับและถามกลับว่า "มีอะไรหรือพิกเล็ท" พิกเล็ทกลับเกาะมือพูห์ไว้ ก่อนตอบกลับว่า "เปล่า ไม่มีอะไร แค่อยากมั่นใจว่าเราเดินมาด้วยกันเท่านั้นเอง"

ภาพ นี้ ถ้อยสนทนานี้ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง สังเกตไหมว่าพูห์เดินนำหน้า ควรเป็นพูห์หรือเปล่าที่น่าจะเป็นฝ่าย "ขอเสียง" พิกเล็ท ว่ายังเดินตามตัวเองมาหรือไม่ นั่นหมายถึงว่าเป็นความกังวลในใจพิกเล็ทเอง ที่เกรงว่าพูห์จะลืมเพื่อนตัวเล็กๆ อย่างเขา

ในชีวิตเรา ทุกคนคงเคยผ่านพบมิตรภาพแสนดี แต่มีกี่คนที่รักษามันไว้ได้คงมั่น ไม่หวั่นไหว วันคืนแห่งชีวิตกลืนกินและฉุดดึงเรารุดไป หันกลับมามองข้างหลังอีกอาจจะเศร้าใจ

หากพบว่าคนที่เราไว้ใจ ... ไม่มีใครเดินตามเรามาอีกแล้ว

ไม่ อยากเดินข้างหน้า เพราะเกรงว่าฉันจะลืมเธอ ไม่อยากตามหลังเช่นกัน กลัวตามไม่ทัน กลัวเธอทำฉันหล่นหาย อยากให้เราเดินเคียงกันไป อยากอุ่นใจมั่นใจ ว่าตลอดการเดินทางชีวิตอันยาวไกล ... เรายังมีกันและกันไปตลอดทาง

ช่วงเวลาที่ผ่านมา  คุณได้ทำใครหล่นหายออกไปจากชีวิตบ้างหรือเปล่า??

บางคำถาม  ก็ไม่ต้องการคำตอบ  ที่ต้องการแค่ให้รู้ว่าที่ถามเพราะเป็นห่วง

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

สเต็กไก่กับซอสซาลซ่าฉ่ำๆ เหมาะแท้เหลา!!!!

เนื่องจากคราวที่แล้วซื้อมะเขือเทศมาหลายลูก  ลูกโตๆฉ่ำ  เลยคิดว่าเอามาทำอะไรดี  ส่วนตัวฟลุ๊คชอบทานมะเขือเทศมากๆอยู่แล้ว  โดยเฉพาะซาลซ่า  แต่จะไม่ใส่เครื่องเทศอะไรมาก(บอกตั้งแต่แรกแล้วว่า  ตามแบบฉบับของตัวเอง)    หลักๆก็จะมีมะเขือเทศ  หอมหัวใหญ่ หรือจะใช้หอมแดงแขกก็ได้ค่ะ  สีสันจะสวยกว่า  พาสลี่ย์หนึ่งช่อน้อยๆ  ผักชีไทยบ้านเรา  เกลือ พริกไทย เท่านี้ค่ะ  วันไหนอยากเอาราดผักสลัดทานก็เติม บัลซามิค กับน้ำมันสลัด  หรือ น้ำมันมะกอกแบบเอ็กตร้าเวอร์จิ้น
ส่วนวันไหนอยากทานรสจัด  ก็ซอยพริกขี้หนูใส่  บีบมะนาวลงไปอีก  ราดบนเนื้อปลาย่าง  หรือ เนื้อหมูอบก็ได้ค่ะ  ใครอยากทานแบบไหน  ก็คอมเม้นไว้ได้นะคะ  แล้วจะทำให้ในโอกาสต่อไปขอรับ

แต่วันนี้อยากทานไก่ (จริงๆอยากทำให้คนอื่นทาน  โดยเฉพาะใครที่ป่วยอยู่  ควรจะบำรุงร่างกายนะจ๊ะ) เอาเป็นว่าจะมาทำสเต๊กไก่ โป๊ะด้วยชีสอีกซักนิด  มันจะรสละมุนขึ้น  แล้วมีหนึบๆของมอสซาเรลล่าชีสอีกด้วย  บางคนอาจจะไม่ชอบทานไก่เปลือยๆ  เพราะรู้สึกเนื้อมันชุ่มแต่ไม่ฉ่ำ  ออกแห้งๆไปหน่อย  เอาล่ะวัตถุดิบมีดังนี้
เนื้อสะโพกไก่ ถ้าชิ้นใหญ่ก็2ชิ้น  สำหรับทาน 2 คน  แต่พอดีฟลุ๊คเลือกชิ้นเล็กมา  จะได้วางในจานแล้วดูมีสูงต่ำ  ไม่แบนติดไปกับจาน (ใช้มือถือถ่ายอ่ะนะ 555) เลือกที่ติดหนังหน่อยๆ  เวลาทอดให้หนังกรอปๆ  อร่อยค่ะ
เนยประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก  เกลือ  พริกไทย  แม๊กกี้  ซอสพริก จะใช้เป็นซอสพริกของอะไรก็ได้นะคะ  แต่อย่าให้รสจัดมาก  เพราะเราใช้มาหมักไก่ค่ะ
เครื่องเทศที่ใช้สำหรับหมักเนื้อ  และ Garlic & Herb Salt Free ส่วนผสมผิวส้ม กระเทียม และสมุนไพร ของแมคคอร์มิคเหมือนกันค่ะ แล้วก็เกลือค่ะ



ล้างเนื้อไก่ให้สะอาด  ทิ้งผึ่งไว้ให้แห้ง  หรือ ใช้ทิชชู่ที่ใช้สำหรับซับน้ำมัน ซับน้ำออกก็ได้ค่ะ  แล้วจับใส่ถ้วย ใส่เครื่องเทศอย่างละประมาณ 1 ช้อนชา ซอสพริก เกลือ1หยิบมือ  แม๊กกี้ประมาณ1-2ช้อนโต๊ะค่ะแล้วแต่ปริมาณไก่  แล้วหมักที่ทิ้งไว้เลยค่ะ ซักครึ่งชั่วโมงกำลังดี
หันมาทำซาลซ่า  หั่นเมื่อเขือเทศเป็นลูกเต๋า  มีดต้องคมนะจ๊ะ เพราะเดี๋ยวมะเขือเทศจะออกมาไม่สวย  แลเวก็หอมแดงแขก ลูกเต๋าเล็กๆ  พาสลีย์สับ  ผีกชีซอย  ใส่ทุกอย่างลงไปในถ้วย  แล้วเหยาะเกลือ  พริกไทย  คลุกเคล้าให้เข้ากัน  แล้วทิ้งไว้  อย่าคลุกมากนะคะ เดี๋ยวมะเขือเทศจะช้ำไปไม่สวย

ตั้งกระทะให้ร้อนพอดี  อย่าให้ร้อนมากเดี๋ยวใส่เนยลงไปจะไหม้นะคะ  ใส่น้ำมันมะกอก ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ไม่ต้องมาก  ใส่เนยลงไป  พอเนยละลายก็ใส่เนื้อไก่ที่เราหมักลงไป  เอาด้านหนังลงก่อนนะคะ  แล้วปิดฝาากระทะค่ะ  ทำแบบนี้ทั้ง 2 ด้าน โดยทอดให้สุกพอเหลืองทีละด้าน ต้องทีละด้านนะคะ  ซอสที่เกาะเนื้อไก่จะออกสีน้ำตาลอ่อนๆค่ะ  กำลังดีกำลังชุ่มนุ่มเลยทีเดียว

เสร็จแล้วก็เอาเนื้อไก่มาวางบนถาดเตาอบค่ะ  อย่าพึ่งเอาน้ำไก่ที่อยู่ในกระทะทิ้งนะคะ เอามอสซาเรลล่าโป๊ะลงไปบางๆ อย่าเยอะนะคะ ให้เป็นชั้นเคลือบเนื้อไก้ไว้เท่านั้น  แล้วเข้าเตาอบ  พอให้ชีสละลาย  ยกออกแล้วเอาชีสแผ่นโป๊ะอีกชิ้นละแผ่นแล้วเข้าเตาอบ  พอให้ชีสอ่อนตัวลง  อย่าให้ถึงกับละลายมากนะคะ

  

อย่าเอาน้ำไก่ที่ออกมาในถาดทิ้งเด็ดขาดนะจ๊ะ  เสร็จแล้ว เอาเนื้อไก่จัดวางเรียงใส่จาน แล้วตักน้ำไก่จากในถาดและในกระทะราดลงไปบนจานนะคะ


 ราดซอสซาลซ่าที่เราเตรียมไว้ราดลงไป  ราดแบบโป๊ะสูงหน่อยก็ได้ค่ะ  จะได้ดูน่าทาน  จานนี้ทำเพื่อความสวยงามเลยใช้ไก่แค่ชิ้นเดียว  แต่จริงๆ ตามที่บอกว่าเลือกไก่ชิ้นเล็ก ก็จะจัดใส่จานละ 2 ชิ้นนะคะ
เสร็จแล้วก็ตักน้ำไก่ที่อยู่ในกระทะราดลงไปบนมะเขือเทศและรอบๆจานอีกทีค่ะ


พร้อมเสริฟแล้วจ้า เห็นมั้ยคะทำไม่ยากเลย  กระทะที่ใช้ก็กระทะไฟฟ้าค่ะ  ส่วนเตาอบก็ 600 บาท  อันเล็กๆด้อยๆ ของอร่อย ใครๆก็ทำได้ค่ะ นี่รูปที่มี 2 ชิ้นบนจานค่ะ  ทำทานเองง่ายๆ  หรือทานกับคนที่คุณรักนะคะ  Bon appertit จ้าาา
ป.ล.  ที่ช่วงนี้ลงบ่อยเพราะเดี๋ยวสงกรานจะไม่มาอยู่อัฟเดทบล๊อค 5 วันเน่อเจ้าาาาา

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

เมื่อถึงทางแยก....

เมื่อคน 2 คนเดินทางมาถึงจุด จุดหนึ่งของความสัมพันธ์
อาจถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจบางอย่าง  เพื่อ......เดินร่วมกันต่อ
หรือทำเพื่อตัวเอง........เลือกเดินแยกออกไป  ไม่มีใครผิดหรือถูกในเรื่องของความรัก  ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ว่า  สิ่งไหนดีหรือไม่ดี  บางครั้งเราคิดว่าทำดีแล้ว แต่อาจจะยังดีไม่พอ  หรือดูงี่เง่าในสายตาของใครอีกคน 
เมื่อถึงเวลานั้น  เราจะรู้เองว่ามันดีที่สุดสำหรับเราแล้ว....
เพื่อนรุ่นพี่ของฟลุ๊คคนหนึ่ง  กำลังพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง  สำหรับคนที่เค้ารัก
ถึงแม้ผลของสิ่งที่เค้าทำนั้น  อาจจะไม่มีพี่เค้ายืนอยู่ในตอนจบ
เมื่อเดินทางมาถึงทางแยก  พี่เค้าตัดสินใจที่จะเดินแยกออกไป  สิ่งที่ยากที่สุด  ไม่ใช่ความคิด  ไม่ใช่ความตั้งใจ  แต่เป็นการปฎิบัติ  การเดินแยกออกไปอย่างโดดเดี่ยวแต่สง่างาม  แม้จะเสียใจเพียงใด
ก็ไม่คิดจะหวนกลับ  นั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก  ฟลุ๊คได้แต่เอาใจช่วยอยู่ไกลๆ
ว่าพี่เค้าจะสามารถทำได้  แม้จะเจ็บปวด  แต่ก็คงไม่เจ็บปวดไปกว่า  การที่ต้องเดินร่วมทางกับใครอีก2คน  หรือบางครั้งอาจเป็นได้เพียงแค่คนที่เดินตามหลังเท่านั้น

ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก
ความรักของฉันไม่ได้อ่อนแอจนทำอะไรไม่เป็น
แม้ทางเดินจะเปลี่ยนไป
และดูเหมือนฉันจะหลงทาง
แต่สุดท้าย.....
ฉันคงต้องเลือกเดินแยกออกไปสักทาง
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีทุ่งดอกไม้รออยู่หรือไม่
และความรักที่ฉันมีต่อเธอ
ก็จะสอนให้ฉันปลูกดอกไม้ได้ด้วยตัวเอง
แม้ว่าดอกไม้นั้น.....
จะไม่มีวันออกดอกเป็น"ดอกรัก"ก็ตาม

ห่างหนึ่งก้าว....รักเราเท่าเดิม

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

caprese salad ใครก็ทำได้นะจ๊ะเธอ

เค้าว่ากันว่า  เวลาอากาศร้อน  กายร้อน  ใจจะร้อนตาม  ทำอะไรก็ไม่สบายตัว  แถมยังไม่สบายง่ายกว่าอากาศหนาวซะอีก  หากใครที่ไม่ค่อยสบายกรุณาไปหาหมอ และรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นด้วยนะคะ  สำหรับวันนี้ เป็นวันจันทร์แรกของเดือนเมษาหน้าร้อนสุดๆ    เลยจะขอเริ่มทำเมนูที่ใครหลายๆคนคงชอบ  ทานแบบเย็นๆคงจะสดชื่นขึ้นไม่น้อย  ยิ่งเป็นสาวๆด้วยแล้ว  แพ้ชีสและมะเขือเทศค่ะ  วันนี้ที่เราจะทำคือ caprese salad  ภาษาอังกฤษซะด้วย  เอาว่ากันง่ายๆตามวัตถุดิบเลย สลัดมะเขือเทศกับชีสค่ะ
ถ้าไปทานตามร้านอาหาร ราคาต่อจาน 150 อัฟทั้งนั้นนะจ๊ะ
แต่ถ้าเราซื้อมาเอง  แพงกว่านั้น 5555 แต่ได้หลายจานไง  ถ้าอยากทานเมื่อไหร่ก็เอาออกมาทำได้  ง่ายๆ ใช้เวลาไม่ถึง10นาทีจ้าาาาา
สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมกับหัวใจ(ฮิ้ววววววว)  ก็คือ
มะเขือเทศ จะเป็นลูกกินเนื้อ โต โต้ โต  หรือถ้าใครจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ  ปาร์ตี้ค๊อกเทล  ก็นี่เลย มะเขือเทศราชินี ลูกน่อยๆ  แต่หวานเปรี้ยว
ตามด้วย ชีสสสสสสสส เยสสสส  ชีส ได้ยินก็ตาละห้อยแล้ว  ชอบมวากกกกกกก ปรกติแล้ว ไปจะใช้เป็น มอสซาเรลล่า แต่วันนี้ฟลุ๊คใช้เฟต้าชีส ที่มีถื่นกำเนิดมาจากกรีกค่ะ เพราะเฟาต้าจะรสชาติเจ้มจ้นกว่า
มอสซาเรลล่าจะรสชาติกลมกล่อม นวลๆ  และที่สำคัญวันนี้ไปเดินริมปิง  
เฟต้าลดราคาซื้อ1แถม1จ้าาาา เริศมากกกกก

และที่ขาดไม่ได้ คือ อิตาเลี่ยนเบซิล หรือ สวีทเบซิล หรือ โหระพาฝรั่ง มันก่อคือกั๋นนั่นเนาะ
น้ำมันมะกอกเอ็กส์ตร้าเวอร์จิ้น (แต่คนทำ ไม่เอ็กส์ตร้านะ 555) บัลซามิคซอส เกลือ พริกไทยดำ

เริ่มต้นด้วย หั่นมะเขือเทศเป็นแว่นนะคะ  บางหนาแล้วแต่ชอบ  แต่ฟลุ๊คชอบหนา 
เวลาทานเข้าไปเต็มปากเต็มคำ ฉ่ำๆ
มันจะฟินมวากกกกกกก  ลูกนึงโตๆ หั่นให้ได้ซัก 6-7 แว่นกำลังดีค่ะ
จัดวางเรียงบนจานแล้วแต่ชอบเลย  ตัดเฟต้าชีสเป็นลูกเต๋า 

โรยลงไป  สบัดใบเบซิล โรยลงไป  จัดแต่งนิดหน่อย เหยาะบาซามิค และน้ำมันมะกอก 
 (คำเตือน น้ำมันมะกอกปากมันรูใหญ่นะคะ เอานิ้วโป้งอุดไว้ให้มีรูไว้นิดนึง) 
แล้วราดค่ะค่อยๆบรรจงราดลงไปด้วยความรัก 
หรือ ใครที่เคยเห็นเชฟในทีวีเค้าสะบัดมือขึ้นๆลงๆ เป็นฟันปลา ราดน้ำมันลงไปจะบนจานใดก็แล้วแต่  
จะลองสวมวิญญาญเชฟดูก็ได้
 เสร็จแล้วก็โรยเกลือนิดหน่อย สบัดพริกไทยดำลงไปอีกนิดหน่อย  พร้อมเสริฟค่ะ
อันนี้ทำทานเองที่บ้านนะคะ สัญญาว่าถ้าครัวพร้อมเมื่อไหร่ จะเริ่มซื้อเครื่องครัวและจานสวยๆ
(ในแบบที่ตัวเองอยากมี) 
จะได้ช่วยให้ตื่นตาตื่นใจกว่านี้แน่นอนค่ะ)  
อ้อออออ ลืมไปสำหรับคนที่จะจัดเป็นคำแบบปาร์ตี้นั้น  แค่ใช้ไม่จิ้มฟันค่ะ จิ้มเอาชีสขึ้นมาก่อนตามด้วยใบเบซิล
และตามด้วยมะเขือเทศลูกน้อยเป็นอันดับสุดท้าย  จัดเรียงใส่ถ้วยค๊อกเทลเล็กๆ ถ้วยละ2-3 ไม้ก็ได้
เหยาะบัลซามิคและน้ำมันมะกอกตาม โรยเกลือพริกไทย  เก๋เริศ  รับรอง
พอทำเสร็จก็ลองชิม  มันง่ายมากจริงๆ่อ่ะ  ยิ่งอากาศร้อนๆ  ทานอาหารที่เป็นจานเย็น  มันจะชื่นใจค่ะ 
หายเหนื่อยไปอีกเปราะ  จะทำทานเองหรือทำให้คนที่คุณรักทาน  ก็อิ่มใจและชื่นใจทั้งนั้น
ทานกับค๊อกเทลเย็นๆ  มันฉกชื่นขึ้นมาเลยทีเดียว  เอาไว้คราวหน้าจะมาผสมค๊อกเทลให้ทานกันนะคะ
เร็วๆนี้แน่นอนจ้า  Bon appetit!!!!