จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

คาเระไรอิสึ ข้าวราดแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ร้อนๆ ง่ายๆใครๆก็ทำได้

สวัสดีค่ะท่านผู้มีใจรักในการทำอาหารทุกท่าน  ขออภัยที่เดือนนี้ไม่ค่อยได้ทำอะไรทานเลย  เพราะคุณแม่ไม่สบายเข้าโรงพยาบาลด้วย  แต่ตอนนี้ออกมาพักที่บ้านแล้วค่ะ  ที่มาของเมนูจานนี้  จริงๆตั้งใจทำมาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว  เพราะที่เชียงใหม่อากาศหนะ หนะ หนาวววววว ค่ะ  เลยอยากทำอะไรที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น   แล้วพอดีเมื่อวานคุณนาย(แม่)  ไม่สบายด้วย มีไข้  เบื่อแกงจืดและข้าวต้ม  และทานอะไรเผ็ดมากไม่ได้  (ข้อแม้เยอะมากกกก)   ก็เลยถึงคราวที่ได้ทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นซักที  มาเริ่มกับที่วัตถุดิบกันเลยค่ะ  ส่วนที่เป็นเนื้อสัตว์  ใครจะใช้เนื้อบด  หมูบด  ไก่  น่องไก่  เนื้อชิ้น  หมูชิ้น  เฮ้ยยยย มันได้หมดจริงๆ  แล้วแต่ว่าใครชอบทานอะไร  ฟลุ๊คใช้เนื้อบด 1 ทัพพี  เนื้อหมูสันคอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมโตๆหน่อย  เหมือนทำจับฉ่ายอ่ะค่ะ  อยากได้แบบเต็มปากเต็มคำ   แล้วถามว่าทำไมต้องใช้เนื้อบดด้วย  มันจะหอมมากค่ะถ้าเพิ่มเนื้อบดลงไปอ่ะ  หอมชนิดที่ว่า  น้องข้างบ้านมาเกาะหน้าต่างแล้วบอกว่า  หนูอยากกินอ่ะ 55555  จริงๆนะคะ   เพราะกลิ่นเนื้อบดมันก็คือกลิ่นแฮมเบอเกอร์นั่นแหละค่ะ  หัวหอมใหญ่ 1 หัว  แอปเปิ้ล  มันฝรั่ง  แครอท  เกลือ  พริกไทย  และที่ขาดไม่ได้ คือ ตัวเครื่องแกงกะหรี่ค่ะ  หาซื้อได้ทั่วไปตามห้างต่างๆนะคะ

แล้วก็ลงมือทำด้วยการตั้งกระทะ(ไฟฟ้า) ใส่น้ำมันเล็กน้อย  และก็เอาเนื้อบด และเนื้อหมูที่เราหมักกับเกลือและพริกไทยลงไปผัดลงในกระทะ  ผัดให้หอม แล้วใส่หัวหอมใหญ่ลงไปผัด  ตอนนี้มันจะหอมมวากกกกกก
แล้วก็ตามด้วยแครอท  มันฝรั่ง  ลงไปผัด  ผัดไปเรื่อยๆ  เอาแบบเหมือนข้าวผัดอะค่ะ  มันต้องมีแบบไหม้ๆติดกระทะนิดนึง  ภาษาเหนือเค้าเรียกแฮ่มๆนิดนึงค่ะ  สุดท้ายก็ใส่แอปเปิ้ลลงไป



 แล้วใส่น้ำซุป  หรือน้ำธรรมดาลงไป  ตอนนี้ก็เคี่ยวไปเรื่อยๆ  ใช้ไฟกลางค่ะ



หลายคนถามมาว่าให้กระทะไฟฟ้าแบบไหน  ฝาเป็นไง  นี่เลยค่ะ  ถ่ายตอนตั้งเคี่ยว  ปิดฝากมาให้ดูด้วย  หน้าตาลูกสุดที่รักของข้าพเจ้าเป็นเยี่ยงนี้  สภาพเก่า(ไปนิด) นะคะ แหะๆ   ตั้งเคี่ยวแบบนี้ไปซัก ครึ่งถึง 1 ชั่วโมงค่ะ  แล้วแต่ปริมาณที่ท่านทำ

พอได้ตามเวลาที่เรากำหนดแล้ว  ก็ใส่ก้อนแกงกะหรี่ลงไป  แล้วค่อยๆคนให้ละลาย และเข้าน้ำเข้าเนื้อกับเครื่องอื่นๆค่ะ  ถามว่าาาา  ทำไมใส่ก้อนแกงตั้งแต่แรกแล้วเคี่ยวทิ้งไว้ไม่ได้  ห้ามมมมมมมม  ห้ามเด็ดขาดนะคะ  เพราะพอใส่ก้อนแกงแล้วน้ำมันจะเหนียว ข้นขึ้น  แล้วเวลาเดือด มันจะดระเด็นปุดๆเหมือนเราต้มโจ๊ก  หรือครีมซอสแบบนั้นอ่ะ  แล้วมันจะไหม้ติดก้นหม้อด้วยค่ะ  ดังนั้นหลังจากที่เราใส่ก้อนแกงแล้ว  ก็คนๆเคี่ยวๆไปอีกซักแป๊บ  พอให้ละลายหมด  ก็ปิดไฟได้เลยค่ะ  เท่านี้้!!!!! เท่านี้จริงๆ 

ถ้าจะให้อร่อยต้องทิ้งไว้คืนนึง  เหมือนซอสสปาเก็ตตี้แหละค่ะ   แต่นี้มันอดใจไม่ไหว  เลยขอลองชิมก่อนซักจาน  แล้วตักมาอวดโฉมให้ได้ชมกันด้วย   ไม่ยากเลยค่ะ  มันง่ายมากกกกกกกกก  ไม่ต้องปรุงรสนั่นนี่มากมาย  ก็อร่อยแล้ว  เหมาะกับอากาศหนาวๆแบบนี้  หาอะไรที่ทานแล้วร่างกายอบอุ่นทานกันดีกว่าค่ะ ^^

ลองไปทำกันดูนะคะ  แล้วอย่าลืมทำให้คนที่คุณรักทานด้วย  Bon appetit ค่ะ